♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ✦ [DRAMA] [Rewrite] ▚▚▚
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ✦ [DRAMA] [Rewrite] ▚▚▚  (อ่าน 175834 ครั้ง)

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่านตอนนี้แล้วสงสารบูมจัง T^T ทิวแวะมาหาบูมหน่อยเถอะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
สรุปก็ยังทำไม่เป็นอยู่ดีครับ พยายามแล้วก็ยังตอบโดยอ้างถึงคำพูดไม่ได้ ช่างมันเถอะ เอาไว้ก่อน
ตอนแรกว่าจะยืดนิยายเรื่องนี้สักหน่อย แต่คงไม่ยืดแล้วล่ะครับ น่าจะจบได้ภายในไม่เกินสามตอนนี้
อาจจะมีตอนพิเศษให้ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไร อยากให้มันจบก็จบไปเลย
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้จะพอมีเวลาเขียนหรือเปล่า จะพยายามละกันนะครับ คงไม่ดราม่ามากไปกว่าที่ผ่านมาแล้ว
พอเรื่องจบแล้วคงจะขอหยุดไปทำงานก่อน รู้สึกว่าการเขียนนิยายกระทบกับงานพอสมควร
แต่ยังติดตามอ่านเรื่อง "ต้นสน" ได้ครับ อันนี้ก็ดราม่าไม่แพ้กัน
เอามาลงใหม่ครั้งนี้ผมจะเพิ่มบทหรือปรับแก้ให้รายละเอียดบางอย่างให้มันชัดเจนขึ้นด้วยครับ
แต่คิดว่าคงไม่ใช้เวลาเขียนมากเพราะแค่เพิ่มเติมนิดๆ หน่อยๆ

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
จะจบแล้วหรอ  :sad4:

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
จะจบแย๊วจิงๆอ่ะะะ


=w=

ไปติดตามต้นสนบ้างดีกว่า
:9

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


จะจบแล้วเหรอ...

อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆจัง เอิ๊ก  :m1:

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอฉากหวานๆให้ทิวบ้างล่ะกัน ดราม่ามาเยอะเชียว  :give2: :give2:


ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ตอนแรกยังคิดว่าพิมพ์ผิดซะอีก "ไม่ใช่สิ "
ช่างเป็นมุขที่ลึกล้ำจริงๆ

จะว่าไปบูมดูแย่กว่าทิวอีกนะเนี่ย ตัดสังคมออกหมด
ทิวยังมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ้าง

230

  • บุคคลทั่วไป
 :sad11: เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคับ (รออ่านยุชอบมากๆๆๆๆๆ )

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต (Re-written Version)
CHAPTER 36 ✦ พลังดึงดูดของความรัก


เช้าวันใหม่ของอีกวันที่ดูเหมือนๆ เดิมปลุกทิวให้ตื่นขึ้นจากความหลับไหล สามปีที่ผ่านไปอย่างช้าๆ และทรมานอาจทำให้ทิวเคยชินกับความทุกข์ แต่บางวันก็ไม่เคยชินกับความคิดถึงได้เลย วันนี้ก็เช่นกัน ทิวคิดถึงบูมอีกแล้ว คิดถึงอย่างจับจิตจับใจและก็ทำได้แต่คิดถึงอยู่อย่างนี้ เมื่อตื่นขึ้นมาพบแต่ความว่างเปล่าแล้วก็อดคิดถึงช่วงเวลานั้นที่เคยตื่นขึ้นมาพร้อมกับใครบางคนไม่ได้ วันเวลาแห่งความสุขนั้นสั้นเหลือเกิน สั้นจนดูเหมือนราวกับเป็นเพียงความฝันที่แค่นอนตื่นขึ้นมาก็หายไป

วันที่ทิวได้เจอบูมเป็นครั้งสุดท้ายก็คือวันที่บูมเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ความจริงทิวตั้งใจว่าจะไม่ไปเพราะกลัวทำใจไม่ได้ แต่...

"ทิว เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว ไปสนามบินกับพี่เดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวไม่ทัน"

นั่นคือประโยคแรกที่พี่ชายของบูมบอกเมื่อมาถึงบ้านของทิวตอนราวๆ สามทุ่ม บีมอุตส่าห์ดิ่งรถมาหาทิวตามคำขอของน้องชายที่อยากเห็นหน้าทิวสักครั้งก่อนจากไป

"จะดีเหรอครับพี่บีม ผมไม่อยากให้บูม..." ทิวลังเล หน้าตาบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเพียงใดในตอนนั้น

"ไม่มีเวลาแล้วนะทิว พี่อยากให้ทิวไปหาบูม เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า" บีมเร่งเร้า ยังไงก็ต้องพาทิวไปหาบูมให้ได้

"ครับพี่" ทิวบอกแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปบนบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็นั่งรถออกไปกับบีมทันที

ที่สนามบินนั้น พ่อ แม่และบูมต่างก็ยืนรอบีมด้วยความใจจดใจจ่อเพราะใกล้เวลาขึ้นเครื่องเข้าไปทุกที บูมลุ้นระทึกอย่างใจจดใจจ่อ คอยมองประตูทางเข้าแทบจะทุกนาทีเพื่อมองหาคนที่บูมกำลังรอคอยอยู่ หวังว่าพี่บีมจะชวนทิวมาได้สำเร็จ

"มาแล้วๆ พี่บีมมาแล้วลูก" คุณลิขิตร้องบอกลูกชายคนเล็กอย่างดีใจ

บูมหันไปมองตามแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนที่วิ่งมาพร้อมกับพี่ชาย ทิวยอมมากับพี่บีมแล้ว บูมอยากจะบอกรักพี่ชายคนนี้สักล้านคำที่พาทิวมาหาจนได้

"ทิว" บูมเรียกแล้วก็รีบเดินแกมวิ่งเข้าไปหาคนที่กำลังวิ่งมาหา

เมื่อทิวมาอยู่ตรงหน้าแล้วบูมก็ดึงทิวมากอดไว้แน่น ต่างคนต่างร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้เจอกันและใจหายที่อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ก็จะต้องจากกันไปแล้ว

"บูม..."

ทิวเรียกชื่อแล้วก็หยุดไปเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกที่คอหอย จะขอร้องอ้อนวอนไม่ให้ไปก็ทำไม่ได้ มีความรู้สึกมากมายที่คำนับล้านก็ไม่อาจจะสื่อความหมายแทนได้ทั้งหมดในตอนนี้

"ทิว...ดูแลตัวเองดีๆ นะ เรียนหนังสือให้จบ นายจะได้มีงานทำแล้วก็ไม่ลำบาก มีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่บีม เราบอกพี่บีมไว้แล้ว พี่บีมจะช่วยนายทุกอย่าง"

บูมละล่ำละลักบอกพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารักนายเสมอนะทิว ขอให้นายรอเรา เก็บหัวใจของนายไว้ให้เรา เราจะกลับมาหานาย เราสัญญา เราจะกลับมาใช้ชีวิตกับทิวเหมือนเดิม นายต้องรอเราให้ได้นะทิว นายอย่าไปไหนนะ อยู่คนเดียว...ดูแลตัวเองดีๆ นะทิว เข้มแข็งนะ ขอให้นายรู้ไว้...หัวใจของเราอยู่ที่นาย เราจะพยายามเรียนจบให้เร็วที่สุดแล้วเราจะ..."

บูมพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดไปเมื่อนึกถึงคำสัญญาที่ให้กับแม่ไว้ นี่บูมต้องเลิกกับทิวจริงๆ หรือ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบูมได้ให้คำสัญญานั้นกับแม่ไปแล้ว

คุณลิขิตและบีมยืนมองภาพนั้นด้วยความสะเทือนใจ รู้สึกสงสารบูมจับจิตจับใจที่ต้องถูกบังคับให้ต้องจากคนที่รักไป ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าพ่อกับพี่ชายก็ยิ่งรู้ว่าบูมรักทิวมากแค่ไหน อย่าว่าแต่คุณลิขิตกับบีมเลยที่เห็นอย่างนั้น คุณทิพย์นภาก็ได้เห็นสิ่งที่สองพ่อลูกเห็นแล้วเช่นเดียวกัน ทำให้เธออดถามตัวเองไม่ได้เลยว่า "เธอทำเกินไปหรือเปล่า"

"พรากคนที่เขารักกันมันบาปนะคุณ คุณเห็นไหมว่าบูมกับทิวเขารักกันมากแค่ไหน คุณกำลังทำร้ายลูกของตัวเองอยู่ คุณรู้ตัวหรือเปล่า"

คุณลิขิตหันไปบอกภรรยาเบาๆ คุณทิพย์นภาได้แต่มองภาพนั้นอย่างเงียบๆ และไม่โต้แย้งใดๆ

"นายจะรอเราใช่ไหมทิว" บูมถามย้ำอีกครั้ง

"เราจะรอนายเสมอนะบูม เราจะไม่รักใครอีก เราจะทำตามสัญญาที่เราให้กันไว้ที่หัวหิน ดูแลตัวเองดีๆ นะบูม อย่าลืมห่มผ้าหนาๆ นะ ที่นั่นมันหนาว แล้วก็อย่ามัวแต่เรียนจนไม่มีเวลาพักผ่อน อย่านอนดึกบ่อยๆ นะ นายน่ะชอบนอนดึก มันไม่ดีต่อสุขภาพรู้หรือเปล่า"

ทิวบอกพลางสะอื้นไห้ กอดคนที่รักแน่นราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปจากชีวิต

"นายก็เหมือนกัน อย่ามัวแต่คิดมากว่านายไม่เหลือใคร นายยังมีเราอยู่นะทิว ลำบากยังไงนายก็อดทน ไม่ไหวจริงๆ ก็ให้พี่บีมช่วย พี่บีมยินดีช่วยนายทุกอย่าง เราบอกพี่ชายเราไว้แล้ว นายสัญญากับเรานะทิว มีปัญหาอะไรนายโทรหาพี่บีมนะ อีกไม่เกินสามปีเราจะกลับมา..."

บูมทำได้แค่บอกว่าจะกลับมาเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกว่ากลับมาแล้วจะกลับมารักทิวเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า แม่นะแม่...ทำไมถึงได้ทรมานลูกที่แม่บอกว่ารักถึงขนาดนี้

เสียงประกาศเตือนผู้โดยสารเที่ยวบินของบูมดังขึ้นอีกครั้ง คุณทิพย์นภารู้สึกร้อนใจจนต้องเดินมาดึงบูมออกเพราะกลัวบูมจะตกเครื่องเสียก่อน

"บูม...เครื่องจะออกแล้ว เร็วเข้า"

บูมเดินตามแรงลากของแม่ไปแต่สายตาไม่ยอมละจากทิว โบกมือลาให้ทั้งน้ำตา ทิวโบกมือลาตอบ ยืนมองจนบูมค่อยๆ หายเข้าไปในบริเวณตรวจหนังสือเดินทาง และนั่นก็คือภาพสุดท้ายของบูมที่ทิวได้เห็น


ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็สามปีแล้ว ทิวก็ไม่เคยได้เจอบูมอีกเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงเพราะถูกบังคับให้ต้องตัดขาดการติดต่อกับบูมทุกอย่าง ถูกรังควานจนต้องระเห็จมาทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก หัวหินนั่นเอง พอทิวเห็นประกาศรับสมัครผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่นี่ ทิวก็รีบมาสมัครทันที แล้วก็โชคดีที่ได้งานนี้ ทิวอยากมาอยู่ที่นี่เพราะคำสัญญาของทิวกับบูมเกิดขึ้นที่นี่ ทะเลแห่งนี้จะคอยย้ำเตือนคำสัญญานี้ไว้อย่างดีเสมอ

ทิวเดินทางไปทำงานด้วยรถสองแถวที่วิ่งบริการอยู่ทั่วไป ถ้าวันไหนแต๋งว่างแต๋งก็จะมารับ วิ่งผ่านทะเลทีไรทิวก็อดนึกความสุขและความทรงจำเมื่อครั้งนั้นไม่ได้ ความทรงจำที่แสนหวานก่อนที่ทิวกับบูมจะจากกัน นี่แหละสถานที่ที่ความทรงจำอันสวยงามครั้งสุดท้ายได้เกิดขึ้นก่อนที่จะจากกันไป

ช่วงสัปดาห์นี้ทิวคงต้องทำงานหนักหน่อยเพราะมีงานใหญ่จัดที่โรงแรม เป็นงานสัมมนาเชิงวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการ มีคนมาร่วมงานหลายร้อยคน ทิวชอบเวลาที่มีงานเยอะๆ อย่างนี้เพราะทิวจะได้ทำงานจนเหนื่อยและไม่ต้องคิดอะไรมาก กลับถึงห้องพักก็นอนหลับเป็นตาย ความเหงาบางทีมันก็โหดร้ายทารุณไม่ใช่เล่น ยิ่งมีความคิดถึงโหมกระหน่ำซ้ำเข้ามาด้วยแล้วก็ยิ่งทารุณไม่ใช่น้อย

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

บูมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี แม้ว่าตอนนี้เจ้าของคนเดิมจะไม่ได้อยู่แล้วแต่สภาพมันก็ยังคงคล้ายเดิมอยู่ บูมเดินไปกดกริ่งเรียกที่หน้าบ้าน ไม่นานนักเด็กชายวัยประมาณสิบห้าปีที่เป็นลูกชายเจ้าของบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้ พอเห็นบูมหนุ่มน้อยคนนั้นก็จำได้

"อ๋อ...เรื่องเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของบ้านเดิมใช่ไหมครับ"

บูมพยักหน้าแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน รู้สึกใจหายที่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นของทิวแล้ว ทิวไม่น่าขายไปเลย ถึงจะไปซื้อคอนโดอยู่มันก็ไม่เหมือนบ้านหรอก โดยเฉพาะบ้านที่มีความทรงจำหลายอย่างแห่งนี้

"หาเจอไหม"

"เจอครับ แต่ว่า...เดี๋ยวผมเอามาให้ดูละกัน" หนุ่มน้อยบอกแล้วก็วิ่งเข้าไปในบ้าน

บูมนั่งลงบนม้าหินอ่อนหน้าบ้านด้วยใจระทึก เมื่อหนุ่มน้อยวิ่งกลับมาด้วยแผ่นกระดาษเล็กๆ ที่ใช้จดเบอร์โทรศัพท์แล้วหัวใจของบูมก็แทบหยุดเต้น

"มันเลือนเกือบหมดแล้วครับ สงสัยจะเปียกน้ำ"

บูมมองดูกระดาษชิ้นนั้นด้วยใจห่อเหี่ยว มีชื่อทิวเขียนไว้พออ่านได้ แต่เบอร์โทรศัพท์บนกระดาษชิ้นนั้นกลับลบเลือนและซีดจางจนแทบอ่านไม่ได้เลย มีเพียงตัวเลขบางตัวเท่านั้นที่พอจะเดาออกได้ว่าเป็นเลขอะไร

"ขอบใจมาก เดี๋ยวพี่กลับก่อนละกัน"

บูมบอกด้วยสีหน้าแสดงความผิดหวัง หนุ่มน้อยยกมือไหว้ บูมรับไหว้แล้วก็เดินกลับไปที่รถพร้อมกระดาษชิ้นนั้น

กลับมาถึงบ้านบูมก็ขึ้นไปบนห้อง พยายามนั่งเพ่งและจ้องดูเพื่อที่จะอ่านตัวเลขที่อยู่บนกระดาษชิ้นนั้นให้ได้ แต่มันก็คงยากเกินที่จะเดาได้ว่าตัวเลขที่หายไปสามสี่ตัวนั้นเป็นเลขอะไรบ้าง สุดท้ายก็ตระหนักแก่ใจว่าคงจะไม่มีประโยชน์ที่จะพยายาม บูมจึงได้แต่นั่งนิ่งและเหม่อลอย

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้บูมรู้สึกตัว จากนั้นก็เดินช้าๆ ไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นพี่ชายก็พยายามยิ้มให้ แต่สีหน้าของบูมก็ดูเศร้าเหลือเกิน

"ไปบ้านทิวมาเหรอ" บีมถามพลางเดินเข้ามาในห้องของน้องชาย

"ครับพี่ เจอกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ของทิวแล้ว แต่...มันเลือนจนอ่านไม่ได้เลยครับ" บูมบอกพลางเดินไปหยิบกระดาษชิ้นนั้นมาให้พี่ชายดู

บีมรับมาดูแล้วก็มองหน้าน้องชายด้วยความสงสาร ชีวิตของบูมกลับมาเป็นเหมือนช่วงที่เคยถูกพ่อแม่เคี่ยวเข็ญหนักๆ ก่อนที่จะเจอกับทิวตอนเรียนมัธยมปลายอีกแล้ว คราวนี้ดูท่าจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ บูมกลับมาเป็นคนที่ชอบเก็บตัวและไม่ค่อยร่าเริง หัวเราะและยิ้มน้อยมากจนทุกคนในบ้านเริ่มกังวลว่าบูมจะเป็นโรคซึมเศร้า ความจริงบูมก็เริ่มมีอาการคล้ายๆ อย่างนั้นไปบ้างพอสมควรแล้ว

แม้ว่าจะเห็นใจน้องชายมากแค่ไหนแต่บีมก็จนปัญญาที่จะเดาได้จริงๆ ว่าทิวหายไปไหน บทจะไปทิวก็ไปทันทีโดยไม่ยอมบอกกล่าวใครเลย ถึงวันนี้ บีมจะบอกให้น้องชายตัดใจก็คงบอกไม่ได้เพราะทิวกับบูมไม่ได้จากกันเพราะไม่รักกัน บูมยังรักทิวอยู่และบีมก็เชื่อว่าทิวก็ยังคงรักบูมอยู่เช่นกัน

บูมเดินกลับไปนั่งซึมบนเก้าอี้ตัวเดิม บีมเดินเข้าไปหาแล้วก็บีบไหล่เบาๆ ให้กำลังใจ

"พี่ก็ยังหวังว่า...ความรัก...จะช่วยนำทางให้บูมได้กลับมาเจอกับทิวอีกครั้ง พี่อยากเห็นน้องชายของพี่กลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ทิวอยู่ เชื่อพี่นะบูม บูมต้องเชื่อในพลังแห่งความรัก ความรักจะพาทิวกลับมาบูมจนได้"

บูมพยักหน้า ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แม้ว่าแสงแห่งความหวังนั้นจะค่อยๆ ริบหรี่และอ่อนลง แต่มันก็ยังไม่ดับไปเสียทีเดียว บูมคงจะไม่ยอมให้มันดับง่ายๆ หรอก มันจะต้องคงอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้เจอกับทิวอีกครั้ง

"แม่ไปไหนเหรอครับวันนี้"

บูมเปลี่ยนเรื่องถามเหมือนกับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นแม่มาสักพักแล้ว

"ไปสัมมนาต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ กลับเย็นๆ วันอาทิตย์นี้แหละ"

นี่แสดงว่าบูมแทบไม่เคยสนใจความเป็นไปของคนในบ้านเลยตอนนี้ โดยเฉพาะกับแม่ บูมกับแม่แทบจะไม่ได้พูดคุยสื่อสารกันเลย แต่บีมก็เข้าใจน้องชาย แม่เองก็ทำให้บูมเจ็บปวดและทรมานมากที่พรากคนที่บูมรักไป บูมไม่ได้สูญเสียแค่คนรักเท่านั้น แต่ชีวิตที่สดใสของบูมก็หายไปด้วย

บูมพยักหน้าเข้าใจแล้วก็นั่งเหม่อลอยและนิ่งเงียบตามเดิม เงียบจนบีมรู้สึกว่าไม่กล้าแม้แต่จะรบกวน ไม่นานบีมจึงค่อยๆ เดินลุกออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ พร้อมกับสายตาที่คอยมองน้องชายด้วยความเป็นห่วง

พอพี่ชายออกไปแล้วบูมก็ยังคงนั่งซึมเศร้าอยู่คนเดียวอยู่อีกนาน แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าบูมมีปืนอยู่จึงค่อยๆ เปิดลิ้นชัก พอควานหาแล้วก็ไม่เจอ บูมพยายามค้นหาจนทั่วบริเวณห้องก็ไม่เจอปืนกระบอกนั้นเลย ใครเอาปืนของบูมไปหรือเปล่าหนอ หรือว่าใครสักคนในบ้านมาเจอแล้วก็เลยเก็บไป

พอหาไม่เจอแล้วบูมจึงกลับมานั่งสงบสติอารมณ์ที่เก้าอี้ตัวเดิม ช่วงหลังๆ มานี้บูมมักจะแอบคิดบ่อยๆ ว่าเมื่อชีวิตมันยากลำบากและการพลัดพราก การไม่ต้องมีชีวิตก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีเหมือนกัน บูมเหนื่อยเหลือเกินกับชีวิตที่สิ้นหวังและเดียวดาย

ทิว...หวังว่าความรักจะนำทางให้นายกลับมาหาเราอีกครั้งนะทิว อย่านานกว่านี้อีกเลยนะทิวเพราะเราชักจะไม่มั่นใจแล้วว่าเราจะอยู่รอนายไหวหรือเปล่า

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

ตอนเที่ยงๆ มีกลุ่มแขกวีไอพีจากกรุงเทพมาเข้าพักเพิ่มเติมในงานของกระทรวงศึกษาธิการ ทิวเป็นคนที่มาคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินเป็นกรณีพิเศษ พร้อมกับมีแต๋งและพนักงานหญิงอีกสองสามคนมาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเช็คอินด้วย

แขกกลุ่มนี้มีคนมาร่วมต้อนรับอยู่ด้วยกลุ่มหนึ่ง ทิวไม่ได้สังเกตว่ามีใครบ้างจนกระทั่งได้ยินการสนทนานี้

"สวัสดีค่ะท่านปลัด"

"สวัสดีครับๆ อ้อ นึกว่าใคร อ. ทิพย์นภานี่เอง ได้ข่าวว่าตอนนี้ลูกศิษย์ของอาจารย์ไปเพิ่งได้รางวัลงานวิจัยด้านเศรษฐกิจแห่งอนาคตใช่หรือเปล่าครับ"

พอได้ยินชื่อนั้น ทิวก็รีบหันไปมองหาเจ้าของชื่อและเสียงที่ทิวคุ้นเคยทันที ใช่จริงๆ ด้วย คุณทิพย์นภา แม่ของบูม! ทำไมโลกถึงได้กลมอย่างนี้ เมื่อเห็นคนที่เป็นแม่แล้วก็ทำให้นึกถึงคนที่เป็นลูกขึ้นมาทันที ทิวอยากรู้เหลือเกินว่าบูมเป็นอย่างไรบ้าง แต่คงยังไม่เหมาะที่จะเข้าไปถามคุณทิพย์นภาตอนนี้ จะว่าไป ต่อให้เข้าไปถาม คุณทิพย์นภาก็คงไม่ตอบ แถมทิวเองก็อาจจะโดนดีไปด้วย

เมื่อทิวเดินเข้าไปพาท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการและคณะที่เพิ่งมาถึงเข้าไปเช็คอิน คุณทิพย์นภาจึงได้เห็นทิวและเธอก็จำได้เป็นอย่างดี

"นี่เธอ..." คุณทิพย์นภายืนนิ่งและอึ้งไป

ทิวยกมือไหว้สวัสดีแล้วก็รีบพาแขกไปเช็คอิน แต่ในระหว่างนั้นก็คอยมองมาทางคุณทิพย์นภาบ่อยๆ แล้วก็สังเกตเห็นว่าคุณทิพย์นภาเองก็จ้องมองมาที่ทิวด้วยท่าทางเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเช่นเดียวกัน

เอาล่ะ...คำอวยพรจากพี่ชายของบูมมีแววที่จะกลายเป็นความจริงได้แล้ว ความรักมีพลังและแรงดึงดูง เมื่อคนสองคนรักกันมากและพิสูจน์หัวใจตัวเองได้มากพอ ฟ้าดินก็คงจะไม่ใจดำจนเกินไป

จนกระทั่งเช็คอินเสร็จเรียบร้อย คุณทิพย์นภากับกลุ่มอาจารย์อีกสามสี่คนก็เดินมานำท่านปลัดไปที่ห้องประชุมก่อนเพราะท่านจะต้องขึ้นบรรยายในอีก 10 นาทีข้างหน้านี้ ก่อนจะเดินออกไป คุณทิพย์นภาก็เดินเข้ามาหาทิวพร้อมกับกระซิบบอกเบา

"ถ้าเธอว่าง...เย็นนี้ฉันจะขอคุยกับเธอหน่อย"

ทิวพยักหน้าตอบรับแต่ก็ยังดูสงสัยและหวาดระแวงเพราะไม่รู้ว่าจะโดนอะไรอีก คุยกับผู้หญิงคนนี้ทีไรทิวก็ต้องมีเรื่องมีราวให้เจ็บตัวและหัวใจทุกครั้ง แต่เอาเถอะนะ ทิวจะยอมแลกสิ่งนั้นขอแค่ให้ได้รู้ว่าบูมเป็นอย่างไรบ้างก็พอแล้ว แม่ของบูมจะด่าว่าอะไรทิวอีกทิวก็จะยอม

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

กว่าทิวจะได้เลิกงานก็เกือบสามทุ่ม คุณทิพย์นภาพาทิวออกมานั่งที่ร้านอาหารใกล้ๆ โรงแรมเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลมาก ทิวรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ท่าทางของเธอไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนที่ก่อน แต่ก็ยังดูเครียดๆ และพอสังเกตเห็นความเศร้าหมองได้

ระหว่างที่รออาหารที่สั่ง คุณทิพย์นภาก็เริ่มต้นการสนทนาก่อน

"เธอเป็นไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า"

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเธอจะมาเจอทิวที่นี่หลังจากที่ทิวหายไปได้สามปี ไม่มีใครรู้เลยว่าทิวอยู่ที่ไหน ตอนนั้นเธอเองก็คิดว่าดีแล้วที่เป็นอย่างนี้เพราะบูมจะได้ตัดใจจากผู้ชายคนนี้ได้เสียที ที่ไหนได้ ผ่านมาสามปีแล้วบูมก็กลับเป็นอย่างที่เห็น

ทำไมเธอถึงได้กลับมาเจอกับทิวอีกนะ...

"สบายดีครับ" ทิวตอบสั้นๆ เพราะยังปรับอารมณ์ได้ไม่ถูก ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าคุณทิพย์นภาจะมาดีหรือมาร้าย

"เธอมาทำงานที่นี่นานหรือยัง"

"ก็...ปีนึงได้แล้วมั้งครับ"

คุณทิพย์นภาพยักหน้า แสดงว่าทิวก็ย้ายมาในช่วงที่เฉียดฉิวกับตอนที่บูมกลับมาพอดี

"บูมเป็นไงบ้างครับ" ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทิวก็ตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ไปเสียเลย จะโดนด่าก็ยอมล่ะนะ

คุณทิพย์นภาเงียบและใช้ความคิดอยู่สักพัก "ก็...สบายดี เขาก็กลับมาช่วยพ่อทำงาน งานก็ไปได้ดีอยู่"

ได้ฟังแล้วทิวก็ยิ้มดีใจระคนเศร้าโดยไม่รู้ว่าคุณทิพย์นภาคอยสังเกตอยู่

"ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว ฉันก็รู้สึกว่า...ฉันอาจจะทำกับเธอเกินไปหน่อย"

ทิวเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มเป็นอึ้งทันทีที่ได้ยิน ไม่คิดว่าจะได้ยินคำๆ นี้จากคนเจ้าทิฐิอย่างคุณทิพย์นภา

"ฉันขอโทษเธอละกันนะกับสิ่งที่ผ่านมา..."

ทิวต้องอึ้งอีกครั้งเป็นรอบที่สอง ไม่คิดไม่ฝันว่าคุณทิพย์นภาจะเอ่ยขอโทษด้วย ทิวไม่เคยคาดหวังว่าจะได้สิ่งนี้จากเธอเลย แม้กระทั่งจะได้เจอกันอีกครั้งก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ

ทำไมทิวถึงได้บังเอิญเจอกับแม่ของบูมอีกนะ คนที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอกันทำไมยังบังเอิญมาเจอกันได้

ทิวไม่รู้ว่าจะตอบหรือพูดอะไรจึงได้แต่นั่งเงียบ เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ต่างคนต่างก็นั่งกินเงียบๆ ไป จนกระทั่งทิวตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ขึ้นมา

"ตอนนี้...บูมแต่งงานหรือยังครับ"

คุณทิพย์นภาชะงักเล็กน้อย อย่าว่าแต่จะแต่งงานเลย แค่จะให้มีแฟนสักคนบูมยังไม่ยอมเลย

"ยังหรอก" คุณทิพย์นภาตอบเบาๆ

เหมือนเธอเองก็มีอะไรจะพูดหลายอย่างกับทิว แต่ตอนนี้เธอกำลังคิดอย่างหนัก มันอาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่เธอเองก็คงต้องถามตัวเองอีกหลายๆ รอบว่าเธอพร้อมหรือยัง การที่คนที่มีทิฐิมากอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงอะไรคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก

ทิวได้ฟังแล้วก็แอบรู้สึกดีใจและโล่งใจพอสมควร แต่ก็ไม่กล้าถามต่อว่าบูมมีแฟนหรือยัง

"แล้วเธอ...ยังรักบูมอยู่หรือเปล่า" คุณทิพย์นภาตัดสินใจถามหลังจากที่คิดอยู่นาน

นี่คือรอบที่สามที่ทิวต้องอึ้งอีกครั้ง คุณทิพย์นภาดูแปลกไปมากทีเดียว หรือว่า...เธอคงจะเริ่มเข้าใจอะไรๆ บ้างแล้ว

"ครับ" ทิวตอบสั้นๆ แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป

เสียงโทรศัพท์ทิวดังเตือนว่ามีคนส่งข้อความมาให้ พอเปิดอ่านก็พบว่าเป็นของแต๋งนั่นเองที่ส่งข้อความาบอกว่าจะมารับทิวที่ร้านอาหาร ทิวส่งข้อความตอบกลับไปว่าตกลงแล้วก็หันมากินข้าวต่อ จากนั้นก็ไม่ได้คุยกับคนตรงหน้ามากนัก คงเป็นเพราะคุณทิพย์นภากำลังใช้ความคิดอย่างหนักและระวังท่าทีอยู่บ้างนั่นเอง แต่ก็แปลกที่บรรยากาศไม่ได้ดูน่าอึดอัดมากเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

คุณทิพย์นภากลับมาถึงบ้านในเย็นวันอาทิตย์ตอนเกือบสองทุ่ม เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วก็เดินไปดูที่ห้องกินข้าว ก็เห็นสามี ลูกชายคนโต บีม แพรวและน้องพีมนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ แต่ไม่เห็นลูกชายคนเล็ก เมื่อถามแล้วก็ได้ความว่าบูมไม่หิว ให้คนไปตามแล้วก็ไม่ยอมออกมาจากห้อง

คงจะถึงเวลาที่คุณทิพย์นภาจะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะ เห็นลูกเป็นแบบนี้มาตลอดระยะเวลาหลายปีเธอก็ไม่มีความสุขเช่นกัน เมื่อลูกไม่มีความสุข ความหวังดีทั้งหลายของเธอก็ไม่มีประโยชน์อะไร

คุณทิพย์นภาจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปข้างบน เคาะประตูห้องบูมอยู่สักพักบูมก็เดินมาเปิดประตู สภาพของลูกชายของเธอตอนนี้ดูเหมือนคนไร้ชีวิตจริงๆ บูมอยู่ในสภาพชุดที่ใส่ไปข้างนอก แต่ดูยับๆ เพราะนอนหลับไปทั้งๆ ที่ไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย

บูมทำสีหน้าสงสัย แต่ก็ให้แม่เข้ามาในห้องแต่โดยดีโดยไม่พูดอะไร คิดว่าแม่คงจะมาโน้มน้าวเรื่องจับคู่อีกเป็นแน่

"บูม..." คุณทิพย์นภาเรียกลูกชายที่กำลังเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องโดยไม่พูดไม่จา

บูมหยุดแล้วหันไปมองแม่ ท่าทางที่ห่างเหินนั้นทำให้คนเป็นแม่เจ็บปวดใจทุกครั้งที่ได้เห็น แต่ก็หวังว่าเธอคงจะไม่ได้เห็นท่าทางแบบนี้ของบูมอีกต่อไปแล้ว

"แม่ไปเจอทิวที่โรงแรมที่แม่ไปสัมมนา...นี่เบอร์โทรศัพท์ของทิวนะ" คุณทิพย์นภาพูดพลางยื่นแผ่นกระดาษที่เธอจดเบอร์โทรศัพท์ของทิวมาให้ลูกชาย

"อะไรนะครับแม่" บูมถามราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง แล้วก็ยื่นมือไปรับแผ่นกระดาษนั้นไว้อย่างมึนงง มือไม้บูมสั่นไปหมด

"แม่เจอทิวแล้ว บูมพาทิวกลับมาละกัน มาอยู่ที่นี่กับเราก็ได้"

ถ้าบูมไม่เสียสติก็คงกำลังนอนหลับแล้วฝันไปแน่ๆ เลย ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินแม่พูดอย่างนี้

"แม่ขอโทษนะลูก...กับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ต่อไปนี้...แม่จะรักบูมอย่างที่บูมเป็น แม่จะไม่หวังดีโดยไม่ถามความสมัครใจของบูมอีก ถ้าบูมยังรักทิวอยู่ ก็พาเขามาอยู่กับเรานะลูก แม่ไม่อยากเห็นบูมอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว แม่อยากเห็นบูมมีความสุข ความหวังดีของแม่มันคงไม่มีค่าอะไรถ้ามันทำให้บูมต้องเป็นแบบนี้ ยกโทษให้แม่นะบูม แม่ขอโทษนะลูก"

"แม่..."

เมื่อรู้ว่าฟังไม่ผิดแล้วบูมก็เดินเข้าไปกอดแม่ ต่างคนต่างร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ

"แม่ขอโทษนะบูม แม่ขอโทษ"

เมื่อได้กอดกับลูกชายอีกครั้งเธอก็ได้คำตอบแล้วว่านี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการจากลูก บูมไม่เคยกอดเธอนานมากจนแทบจำไม่ได้แล้วว่าเธอได้กอดลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

"ไม่เป็นไรครับแม่ ผมดีใจที่แม่เข้าใจผม บูมรักแม่นะครับ"

"แม่ก็รักบูมจ้ะลูก"

บูมเคยบอกว่ารักพ่อไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะมีโอกาสได้บอกว่ารักแม่อีกครั้ง ไม่ว่าแม่จะเคยทำไม่ดีกับลูกคนนี้มามากขนาดไหน แต่แม่ก็คือแม่ สายเลือดเดียวกันอย่างไรก็คงตัดกันไม่ขาด วันนี้แม่ยอมที่จะให้บูมกับทิวอยู่ด้วยกันแล้ว

รอเราอีกแค่วันเดียวนะทิว พรุ่งนี้...เราก็จะได้เจอกัน ต่อไปนี้...เราจะไม่จากพรากกันไปไหนอีกแล้วนะทิว รอเราอีกวันเดียวนะทิว

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 23:28:15 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399

คุณหญิงแม่เปิดใจแล้ววว  :m1: :m1:


อ่านตอนนี้แล้วแอบน้ำตาซึม

ทั้งคู่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแล้ว

ดีใจด้วยนะทิว บูม รักกันไปตลอดนะ อุปสรรคต่างๆมันได้ผ่านพ้นไปแล้วล่ะค่ะ มั้ง อิอิ

 :m1: :m1: :z9: :จ้อบจัง1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เรื่องนี้..ดราม่าอย่างแรง
 o13

แต่ชอบ
..มากกกกกกกก..

+1 เลยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nemesis

  • บุคคลทั่วไป
จะได้เจอกันแล้วขอละอย่า  มาม่าอีกนะ หดหู่แทนแล้ว

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ทิว กับ บูม ใกล้จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว  :mc4:


ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ  :pig4:


ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
                                            หวังแต่ว่าน้องแต๋งจะไม่ทำให้งานงอก ทำให้ครอบครัวร้าวฉานนะ กินมาม่ามานาน กิของหวานมั่งเหอะ

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดคุณแม่ ผู้สร้างปม ก็เป็นคนคลายปมนั้นซะที

ลุ้นให้ทั้งคู่เจอกัน แล้วได้อยู่ด้วยกันเร็วๆนะ  :z2:

puu142

  • บุคคลทั่วไป
                                           น้ำตาไหลเลย.....................................

          รักแท้...........ชนะอุปสรรค

ออฟไลน์ shokung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
โอ ไม่มีเวลาว่างอ่านนิยายมานาน วันนี้พอมีเวลาว่างเลยแวะมาหานิยายมาอ่าน เพิ่งจะเห็นว่า คุณ SARAWATTA แต่งเรื่องใหม่เเล้ว ผมเลยรีบอ่านรวดเดียวเลยครับ

ขอบอกว่าไม่ผิดหวังกับฝีมือ คุณ SARAWATTA จริงๆ ซึ้งกินใจมากๆ

แต่ว่าไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า ที่บูมพูดตอนสุดท้าย มันเหมือนมีลางที่บูมจะพลัดพรากจากทิวเลยแหะ ขอให้สิ่งที่ผมคิดผิดด้วยเถอะ ทั้งบูมกับทิวทุกข์มามากเเล้ว ขอให้มีความสุขในตอนจบด้วยเถอะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาซึมสองรอบจากการอ่านตอนนี้
รอบแรกซึมด้วยความเศร้าสะเทือนใจ
รอบสองซึมด้วยความดีใจไปกับบูม(และทิว)
เกือบสายไปแล้วนะคะอาจารย์ เกือบมีลูกชายที่เป็นโรคซึมเศร้าแล้วซินะ
แต่พอมองอีกมุม ก็เห็นความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่มีต่อลูก จนยอมที่จะเปลี่ยนตัวเอง ยอมละทิฐิ เพื่อความสุขของลูก
ซึ่งสำหรับอาจารย์เธอมันคงหนักพอควร เพราะเธออัตตาสูง
แต่เพราะความเป็นแม่ที่มีความรักลูกยิ่งกว่าสิ่งใดนั่นเอง เลยชนะทิฐิได้ในที่สุด

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
สงสารน้องเเต๋ง ㅠ ㅠ
ใกล้จบเเล้ว ใจหายจัง

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
สรุปก็ยังทำไม่เป็นอยู่ดีครับ พยายามแล้วก็ยังตอบโดยอ้างถึงคำพูดไม่ได้ ช่างมันเถอะ เอาไว้ก่อน
ตอนแรกว่าจะยืดนิยายเรื่องนี้สักหน่อย แต่คงไม่ยืดแล้วล่ะครับ น่าจะจบได้ภายในไม่เกินสามตอนนี้
อาจจะมีตอนพิเศษให้ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไร อยากให้มันจบก็จบไปเลย
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าช่วงนี้จะพอมีเวลาเขียนหรือเปล่า จะพยายามละกันนะครับ คงไม่ดราม่ามากไปกว่าที่ผ่านมาแล้ว
พอเรื่องจบแล้วคงจะขอหยุดไปทำงานก่อน รู้สึกว่าการเขียนนิยายกระทบกับงานพอสมควร
แต่ยังติดตามอ่านเรื่อง "ต้นสน" ได้ครับ อันนี้ก็ดราม่าไม่แพ้กัน
เอามาลงใหม่ครั้งนี้ผมจะเพิ่มบทหรือปรับแก้ให้รายละเอียดบางอย่างให้มันชัดเจนขึ้นด้วยครับ
แต่คิดว่าคงไม่ใช้เวลาเขียนมากเพราะแค่เพิ่มเติมนิดๆ หน่อยๆ
เคยอ่านเรื่องนี้จากอีกเว็บหนึ่งจบไปแล้ว ถ้าผู้เขียนบอกว่ามีการปรับแก้บางอย่าง คงต้องตามไปอ่านใหม่อีกล่ะ
เรื่องต้นสน ก็เป็นเรื่องที่ประทับใจมากๆอีกเรื่องจ้ะ

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






doramon

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุด  ......พระเอก กับนายเอก ก็จะได้เจอกัน........

ลุ้นต่อว่า.........ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่าเนี้ย...........

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนมีลางสังหรณ์แปลก ๆ แฮะ
ให้คนเขียนครับ  :กอด1:  :กอด1:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
เย้ เหมือนเรื่องจะเดินไปในทางดี แต่ก็ยังเกรงๆใจคนแต่ง

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต (Re-written Version)
CHAPTER 37 ✦ การเจอกันครั้งที่สาม


"สวัสดีครับ คุณทิวใช่ไหมครับ"

"ครับ พูดสายอยู่ครับ จากไหนครับ"

"อ๋อ...ผมเป็นลูกค้าของโรงแรมครับ วันนี้ว่าจะเข้าไปพักที่นั่น วันนี้คุณทิวอยู่ที่โรงแรมหรือเปล่าครับ"

"อ๋อ...อยู่ครับ จองไว้แล้วใช่ไหมครับ"

ทิวถามพร้อมกับความรู้สึกสงสัย ปกติไม่เคยมีลูกค้าคนไหนโทรเข้ามือถือของทิวด้วยเรื่องนี้เลยเพราะไม่ได้มีหน้าที่จองห้องพักเสียหน่อย

"ยังหรอกครับ จะให้คุณทิวช่วยจองให้หน่อยน่ะครับ"

"อ๋อ...พอดีผมไม่ได้อยู่ตรงส่วนจองห้องพักน่ะครับ รอสักครู่นะครับเดี๋ยวให้คุยกับ..."

"เดี๋ยวๆๆๆ ผมจะคุยกับคุณนั่นแหละ คุณช่วยจองให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ ผมเป็นลูกค้าพิเศษคนสำคัญของคุณเลยนะครับ"

เอ...ลูกค้าคนนี้เป็นใคร ก็บอกแล้วนี่นาว่าไม่ได้มีหน้าที่จองห้องแล้วจะมารบเร้าให้จองห้องให้ได้ยังไงล่ะ เสียงก็บี้ๆ แบนๆ จะว่าคุ้นก็คุ้น จะว่าไม่คุ้นก็ไม่คุ้น

"ขอโทษนะครับ ผมรบกวนขอทราบชื่อลูกค้าได้หรือเปล่าครับ"

"อ๋อ...เดี๋ยวคุณเจอผมก็จะรู้จักเองแหละครับ เนี่ย...ผมใกล้จะถึงแล้ว"

"คุณครับ ผมจองห้องพักให้คุณไม่ได้จริงๆ ครับ ถ้าคุณอยากจองห้องพักต้องคุยกับฟร้อนท์นะครับ"

ทิวชักเริ่มจะหงุดหงิดเพราะดูเหมือนลูกค้าคนนี้ชักจะคุยไม่รู้เรื่อง

"ก็ผมจะคุยกับคุณ ทำไมต้องคุยกับฟร้อนท์ด้วยล่ะครับ คุณจองห้องให้ผมไม่ได้เหรอ ไม่เห็นจะยากเลยนี่ครับ"

"เอาอย่างงี้ละกันครับ คุณก็วอล์กอินเข้ามาเลยละกัน ตอนนี้ยังพอมีห้องพักเหลืออยู่" ทิวชักจะเริ่มโมโห ท่าทางลูกค้าคนนี้จะพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ เสียด้วย คนยิ่งมีงานเยอะอยู่ จะมัวแต่คุยเล่นแบบนี้ไม่ได้

"ก็ได้ แต่ผมอยากเจอคุณทิว คุณทิวออกมาเจอผมที่นอกโรงแรมหน่อยได้ไหมครับ"

"คุณครับ ผมทำงานอยู่นะครับ คงออกไปพบคุณนอกโรงแรมไม่ได้หรอกครับ" ทิวตอบเสียงดุ

"ดุจัง ถ้างั้นก็ให้เลิกงานก่อนสิครับ เดี๋ยวผมจะรอ"

"คุณเป็นใครผมยังไม่รู้เลย แล้วผมจะออกไปพบคุณเพื่ออะไรล่ะครับ"

ทิวพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำเหมือนกลั้นหัวเราะ มันมีอะไรน่าขำขนาดนั้นนักหรือไงนะ กวนประสาทจริงๆ

"คุณทิว ผมเป็นลูกค้าคนสำคัญของคุณนะครับ ถ้าคุณไม่ออกมาพบผม คุณอาจจะต้องหางานทำใหม่ ผมไม่ได้ขู่นะครับ แต่ผมพูดจริงๆ ผมรู้จักกับเจ้านายของคุณดีเชียวล่ะ เดี๋ยวผมจะรออยู่ที่ชายหาดหน้าโรงแรมคุณนี่แหละ ผมใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า อย่าให้ผมต้องรอนานนะครับ เลิกงานแล้วก็รีบออกมาหาผมทันที ไม่อย่างนั้น...คุณอาจจะตกงานได้"

"ขอโทษนะครับ ผมกำลังทำงานอยู่ คงไม่มีเวลาคุยเล่นสนุกแบบนี้"

นายคนนี้เป็นใครกันบังอาจมาสั่งให้ออกมาพบ แถมยังขู่อีกด้วยว่าถ้าไม่ทำตามอาจจะถูกไล่ออกได้ ประสาทหรือเปล่า ใครเชื่อก็บ้าแล้ว แล้วทิวก็ตัดสินใจวางสายไปอย่างอารมณ์เสีย สงสัยจะเป็นคนโรคจิตโทรมาแน่ๆ เลย แต่อีกใจก็รู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกันเพราะทิวก็ยังไม่อยากตกงานตอนนี้ ไม่รู้ว่าหมอนั่นพูดจริงหรือพูดเล่น

ฝ่ายคนที่โทรมานั้น หลังจากทิววางสายไปแล้วก็เอามือที่บีบจมูกออก แล้วก็นั่งยิ้มด้วยความชอบใจอยู่ริมชายหาด ตอนแรกก็กะว่าจะเข้าไปหาทิวแบบธรรมดานั่นแหละ แต่ถ้าทำให้ทิวเซอร์ไพรส์ก็น่าจะดี บูมอยากรู้ว่าเวลาที่ทิวเจอบูมโดยไม่คาดฝัน ทิวจะดีใจมากแค่ไหน อดทนอีกนิดนะบูม ใจเย็นๆ ก่อน ยังไงก็ได้เจอกันแน่

พอใกล้เวลาเลิกงาน บูมก็โทรไปหาทิวอีก อุตส่าห์ไปซื้อซิมมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะเพราะรู้ว่าทิวจำเบอร์โทรศัพท์ของบูมได้

"คุณทิว อย่าลืมนะครับว่าเรานัดกันไว้ ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ ผมมีเบอร์เจ้านายคุณด้วย จะให้ผมบอกเบอร์ก็ได้ 08-1xxx-xxx เขาชื่อคุณจอห์น ใช่ไหมครับ ถ้าคุณไม่ออกมาพบผม ผมจะสายตรงถึงเขาแล้วบอกว่าคุณน่ะเป็นพนักงานที่ไม่ดี ไม่รู้จักบริการลูกค้า"

ทิวได้ฟังแล้วก็ชักจะโมโห แต่พอได้ฟังเบอร์และชื่อที่นายคนนั้นบอกมาแล้วก็ทำให้ทิวชักกลัวว่านายคนนั้นคงไม่ได้ขู่เล่น ๆเพราะเจ้านายของทิวชื่อจอห์นจริงๆ ส่วนเบอร์นั้น ถึงทิวจะจำไม่ได้ทั้งหมดแต่ก็คล้ายๆ อย่างที่หมอนั่นบอกมานั่นแหละ

"อีก 20 นาทีเดี๋ยวผมออกไป" ทิวบอกอย่างหัวเสียแล้วก็เดินไปบอกแต๋งที่กำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน

"แต๋ง...พอดีพี่มีธุระนิดหน่อย พี่จะกลับเองนะ แต๋งไม่ต้องไปส่งพี่หรอก"

"อ๋อ...ครับ"

แต๋งรับคำอย่างงงๆ ไม่เห็นทิวบอกเลยว่าวันนี้มีธุระ หรือว่าจะเพิ่งมีตอนนี้ เอ...แต่ทำไมดูท่าทางอารมณ์ไม่ดีเลย ปกติแต๋งไม่ค่อยเห็นทิวอารมณ์เสียอย่างนี้บ่อยเท่าไรนัก มีเรื่องกับใครหรือเปล่าเพราะในการทำงานในองค์กรโดยทั่วไปก็มักจะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย อิจฉาริษยากันเป็นธรรมดา

✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

หกโมงเย็นแล้วทิวก็ออกมาจากโรงแรม เดินตรงลิ่วมาที่ชายหาดด้านหน้าโรงแรมแล้วก็พยายามเมียงมองหาผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า เดินหาอยู่สักพัก ทิวก็เจอชายคนหนึ่งยืนกอดอกมองดูทะเลอยู่เงียบๆ คนเดียว ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าเสียด้วย ก็น่าจะเป็นคนนี้แหละ ทิวจึงเดินเข้าไปหาด้วยอารมณ์ที่ยังหงุดหงิดพอสมควร พอใกล้ถึงตัวทิวก็ร้องถาม

"โทษนะครับ ใช่คุณหรือเปล่าครับที่บอกให้ผมมาหา"

บูมหันหน้ามามอง ยิ้มกว้างด้วยความดีใจให้กับคนตรงหน้า

"ใช่ครับ ผมนี่แหละ จำผมได้หรือเปล่า"

"บูม!"

แม้ว่าท้องฟ้าจะเริ่มมืดไปบ้าง แต่ทิวก็รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือใคร คนที่ทิวเฝ้ารอคอยและคิดถึงมาตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา คนที่ทิวต้องยอมตัดขาดการติดต่อทั้งที่ยังรักเพราะครอบครัวไม่เห็นด้วย ไม่ว่าบูมจะมาที่นี่ได้ยังไงแต่ทิวก็ดีใจที่สุดในชีวิตแล้ว ที่แท้เจ้าหมอนั่นที่กวนประสาททิวมาทั้งวันก็คือบูมนี่เอง

สามปีที่ผ่านไปทำให้ใบหน้าของบูมดูคมเข้มขึ้นเพราะเป็นหนุ่มเต็มที่แล้ว ที่เคยดูภูมิฐานก็ยิ่งดูภูมิฐานยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่ว่าจะยังไง คนตรงหน้าก็คือคนที่ทิวรักมากที่สุดและเฝ้ารอคอยตลอดมา

"ทิว"

สองหนุ่มโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ นึกว่าชาตินี้จะต้องตายจากกันไปเสียแล้ว ความรักและผูกพันตลอดหลายปีที่ผ่านมา บวกกับการเคยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนเหมือนคู่สามีภรรยา ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้นเหนียวแน่นมาก ยากที่จะตัดขาดออกจากกันไปได้ง่ายๆ จะว่าไปแล้ว ทิวกับบูมก็คือคู่ชีวิตกันนั่นแหละ ไม่ได้เป็นเพียงแค่คนรักกันธรรมดา แม้ว่าจะต้องพลัดพรากจากกันไปจนตายก็คงไม่สามารถลบลืมกันและกันได้ง่ายๆ

ทิวกับบูมผละออกจากกันเล็กน้อยแต่ก็ยังประคองกันไว้อยู่เพื่อที่จะได้มองหน้ากันได้ชัดๆ ต่างคนต่างยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา ยิ้มที่บ่งบอกว่ารู้สึกดีใจมากเพียงใดที่ได้เจอคนรักที่เฝ้าตามหามานานอีกครั้ง ยิ้มให้กับชะตาชีวิตและการพลัดพรากที่เพิ่งผ่านพ้นไป ยิ้มให้กับความอดทนและมั่นคงในความรักของทั้งสองคน และยิ้มให้กับความหวังว่าต่อไปนี้คงจะไม่มีสิ่งใดมาพลัดพรากสองคนให้ต้องจากกันไปอีกแล้ว

"ทิว...เราดีใจเหลือเกินที่เราได้เจอนาย รู้ไหมว่าเราตามหานายจนแทบบ้า"

"เราก็เหมือนกัน นึกว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้วชาตินี้"

ต่างคนต่างมองหน้ากันนิ่ง แม้จะมีคนผ่านไปบ้างแต่ทั้งสองหนุ่มก็ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากคนตรงหน้า ในที่สุดความรักก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นก็คือการนำทางสองคนที่รักกันให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง การพลัดพรากครั้งที่สามคงไม่มีอีกแล้ว จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิตของแต่ละคนนั่นแหละ

แต่ยังหรอก...บูมยังอยากให้ทิวเซอร์ไพรส์ทิวมากกว่านี้อีก

"ที่เรากลับมาครั้งนี้...เพราะเรา...อยากจะมายกเลิกคำสัญญานั้น นายจำได้ใช่ไหมว่าเราเคยสัญญาอะไรกันไว้ที่นี่"

จากที่ยิ้มๆ ทิวก็เริ่มมีสีหน้าที่เจื่อนลง ทิวจำได้ดีเสมอ บูมบอกกับทิวว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งคิดจะเปลี่ยนใจก็ต้องมายกเลิกคำสัญญาว่าจะรักกันที่ชายหาดแห่งนี้ด้วยตัวเอง แม้จะไม่มีคำสาปแช่งว่าคนที่ผิดสัญญาจะพบกับความหายนะยังไงบ้าง แต่มันก็เป็นคำสัญญาที่ทั้งสองคนรักษามันไว้อย่างดีด้วยหัวใจ

"จำได้สิ" ทิวตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงความหวาดหวั่นในใจ

"นั่นแหละ เราจะมายกเลิกสัญญานั้น"

ทำไมต้องยกเลิกสัญญา ดูบูมสิ ทำไมพูดเรื่องนี้ราวกับจะไม่รู้สึกอะไรเลย ออกจะดีใจด้วยซ้ำ

"นายเจอคนที่นายรักแล้วเหรอ"

ทิวถามด้วยเสียงเศร้า ภาวนาในใจว่าขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย แต่โชคก็ไม่เข้าข้างทิวเสียแล้ว

บูมพยักหน้า เห็นทิวทำหน้าเศร้าแล้วก็สงสารเหมือนกัน แต่เพื่อให้ทิวประหลาดใจบูมก็ยังหยุดไม่ได้

"ใช่...เราเจอแล้ว แล้วเราก็รักเขามากด้วย เราก็เลยว่าจะขอยกเลิกสัญญาที่เราเคยให้ไว้กับนายที่นี่ก่อน แล้วเราก็จะได้กลับไปหาคนที่เรารักเสียที เห็นไหมทิว...เราน่ะทำตามทุกคำพูดของเราทุกอย่างเลยนะ"

ทิวหน้าเสีย จากที่เมื่อสักครู่นี้ดีใจแทบเป็นแทบตาย พอได้ยินอย่างนี้แล้วทิวก็อึ้งไปเหมือนกัน นี่สรุปว่าบูมหมดรักทิวแล้วหรือ นึกว่าบูมจะจริงจังกับความรักครั้งนั้นเสียอีก สามปีที่ผ่านมาทำให้บูมเปลี่ยนใจไปแล้ว ก็คงอย่างนั้น...ใครล่ะจะทนเหงาอยู่ได้ตั้งสามปี ขนาดทิวเองก็ยังแทบจะทนไม่ไหวเลย

"ได้ไหมทิว นายให้เรายกเลิกสัญญานั้นได้หรือเปล่า"

ทิวถึงกับน้ำตาคลอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบูมจะลืมความรักที่ต่อสู้มาด้วยกันอย่างยากลำบาก

"นายคงจะ...รักคนๆ นั้นมากเลยสินะ ถึงต้องมาขอยกเลิกสัญญา"

"ใช่...เรารักเขามากๆ เลย แล้วเขาก็รักเรามากๆ ด้วยเหมือนกัน เราก็เลยต้องมาหานายถึงที่นี่เพื่อยกเลิกสัญญาไงล่ะ" บูมรีบตอบทันควัน

อ๋อ...ที่แท้ที่มาที่นี่ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง ไม่ได้มาเพราะรักหรือคิดถึงคนที่จากกันไปตั้งสามปีเลย เสียแรงที่อุตส่าห์รอคอยมาตั้งนาน

"ก็...แล้วแต่นายละกัน เราไม่มีปัญหาหรอก ถ้านายอยากยกเลิก เราก็ยินดียกเลิก"

"ขอบคุณมากทิว เราจะได้กลับไปหาคนๆ นั้นเสียที เดี๋ยวเรากลับก่อนนะ เราต้องรีบไป"

ทิวอ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึง ทิวคิดถึงบูมมากแค่ไหนรู้ไหม แต่บูมกลับมาเพื่อยกเลิกสัญญาแล้วก็จะรีบไปเสียอย่างนั้น อย่างน้อยถึงไม่รักกันแล้ว จะอยู่คุยกันสักหน่อยไม่ได้เลยหรือไง ทำไมใจดำแบบนี้ล่ะบูม นายไม่คิดจะถามไถ่อะไรกันบ้างเลยหรือไง

"จะกลับเลยเหรอ"

"อืมๆ...มันมืดแล้ว เดี๋ยวคนนั้นจะรอเราแย่เลย เรารู้ว่าเขารอเราอยู่ รอนานมากแล้วด้วย"

บูมบอกหน้าตาย แม้จะสงสารทิวแค่ไหนแต่ก็พยายามที่จะแข็งใจทำต่อให้จบ อีกไม่นานนายก็จะรู้ว่าคนๆ นั้นที่เราพูดหมายถึงใคร

ทิวหน้าเศร้าและก้มหน้าลงต่ำ

"ก็...แล้วแต่นายละกัน โชคดีนะบูม หลังจากนี้แล้ว...เราอย่ากลับมาเจอกันอีกเลยนะ ขอบคุณที่นายเคยรักเรา ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์กลับมาหาเราอีกสักครั้ง"

ทิวพยายามสะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็ห้าไม่ได้เสียแล้ว มันจุกในอกไปหมด คิดไม่ถึงว่าคนที่เคยรักกันจะทำเหมือนไม่มีเยื่อใยได้ถึงขนาดนี้

"โชคดีนะทิว อีกไม่นานเราคงได้เจอกัน เราไปก่อนนะ"

บูมพูดจบก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกลาแล้วแกล้งทำเป็นเดินจากไป ทิวได้แต่มองตามตาละห้อย บูมรู้สึกว่าทิวคงกำลังมองอยู่ กลัวว่าจะเสียแผนก็เลยหันไปบอกทิว

"ทิว...นายอย่ามองเราสิ เราไม่อยากให้นายมองเราด้วยสีหน้าอย่างนี้ นายมองไปที่อื่นได้ไหม"

เอากับเขาสิ แม้แต่จะมองก็ยังมองไม่ได้ นี่บูมเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เลยหรือ ทำไมบูมถึงเป็นคนใจคอโหดร้ายขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะ ไม่อยากให้มองทิวก็จะไม่มอง ว่าแล้วทิวก็หันไปทางอื่นแล้วปล่อยให้บูมเดินจากไป รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจ รู้อย่างนี้...อย่าเจอกันเสียเลยดีกว่า มันเจ็บมากรู้ไหมบูมที่นายทำกับเราอย่างนี้ ตายจากกันไปยังไม่เจ็บเท่านี้เลย

ในขณะที่ทิวกำลังคิดน้อยใจอยู่นั้น ไม่นานนัก เสียงที่คุ้นหูก็ดังมาจากข้างหลัง

"ทิว...นายรู้แล้วเหรอว่าคนที่เราพูดหมายถึงใคร"

ทิวหันไปมองเจ้าของเสียงแล้วก็ต้องตกใจ บูมนั่นเอง บูมกลับมาทำไมอีก จะกลับมาทำให้ทิวต้องเจ็บอีกสักแค่ไหนถึงจะพอใจ

"ไม่รู้...เราจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ไม่ได้ติดต่อกันตั้งสามปี" ทิวพูดพลางสะอื้น

"ก็นายไง คนที่เราพูดถึงก็คือนายนั่นแหละ" บูมบอกพลางยิ้ม

ทิวอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง รู้ว่าโดนแกล้งเข้าให้เสียแล้ว

"ไอ้คนบ้า ทำไมแกล้งเราแบบนี้ ฮือ" ทิวว่าแล้วก็เดินมาทุบอกบูมใหญ่ด้วยความโมโห ปกติไม่เคยเรียกบูมว่า "ไอ้" เลย แต่ครั้งนี้ทิวโมโหจริงๆ

"โอ๊ย"

บูมร้อง แต่ก็ไม่ได้ห้ามจริงจัง แล้วก็ตัดสินใจดึงทิวเข้ามากอดไว้ ทิวทุบอกอยู่พักหนึ่งแล้วก็หยุด แล้วทิวก็กอดบูมแน่นพร้อมกับปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น

"คนบ้า...ทำไมแกล้งเราแบบนี้ รู้ไหมว่าเราเสียใจแค่ไหน ฮือๆๆ เราไม่สนุกด้วยเลยนะจะบอกให้"

บูมลูบหลังแล้วก็คอยโอ๋

"ทิว เราขอโทษ เราขอโทษนะ เราจะไม่แกล้งนายอย่างนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเราจะอธิบายให้นายฟังว่าทำไมเราถึงทำอย่างนี้ ขวัญเอ๋ยขวัญมา อย่าร้องไห้นะ คนดีของบูม อย่าร้องไห้ เรากลับมาหานายแล้ว เราจะไม่จากไปไหนอีก"

ทิวคงจะเสียขวัญมากทีเดียว จะว่าไปแล้วก็ไม่น่าแกล้งทิวถึงขนาดนี้เลย บูมรู้สึกสงสารทิวจนอดร้องไห้ด้วยไม่ได้

"คนดีของบูม" ทิวไม่ได้ยินคำนี้มานานเหลือเกิน เป็นคำพูดเพียงคำเดียวสั้นๆ ที่บอกทุกความรู้สึกทั้งหมดที่บูมมีให้ผู้ชายคนหนึ่งที่บูมรักตลอดมา ทิวจึงกอดบูมแน่น เนิ่นนานจนเสียงสะอื้นค่อยๆ เงียบหายไป อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นช่วยปลอบประโลมใจทิวได้เป็นอย่างดี อ้อมกอดนี้นี่แหละที่บูมโหยหามาตลอดชีวิต โดยเฉพาะในช่วงสามปีที่เพิ่งผ่านพ้นไป

บูมค่อยๆ คลายอ้อมแขนแล้วกอดทิวไว้อย่างหลวมๆ ใช้มือเกลี่ยผมบนหน้าผากทิวออกเพื่อที่จะได้เห็นหน้าทิวได้ชัดๆ

"กลับไปอยู่กับเรานะทิว เรามาที่นี่วันนี้ก็เพราะว่าเราจะมารับนายกลับไปอยู่กับเรา ที่บ้านของเรา"

"แล้วแม่ของนาย..."

"ก็แม่นี่แหละที่บอกให้เรามารับนายไปอยู่ด้วย"

"จริงเหรอบูม...นายไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม"

ทิวทำหน้าคล้ายกับไม่เชื่อ วันนี้บูมแกล้งทิวหลายอย่างจนทำให้ทิวไม่แน่ใจเสียแล้ว

"จริงสิ เราจะโกหกนายทำไม เราบอกแล้วไงว่าเราไม่แกล้งนายแล้ว" บูมบอกพลางยิ้มและขำเล็กน้อย

"จะเรียกสินสอดเท่าไร เราก็ยอมหมดตัวเลยนะ ขอแค่ให้นายกลับไปอยู่กับเรา" บูมพูดติดตลกในตอนท้าย

ทิวหัวเราะอย่างขบขัน แต่ก็ดีใจที่แม่ของบูมเข้าใจแล้ว ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ คงจะไม่มีแม่ดีๆ คนไหนที่จะทนเห็นลูกมีชีวิตที่มีความทุกข์ได้ตลอดไปหรอก แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานหลายปี แต่คุณทิพย์นภาก็ยอมลดทิฐิของตัวเองลงเพื่อที่จะไม่ให้ลูกชายคนเล็กต้องซึมเศร้าไปมากกว่านี้

ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่บูมได้คิดวางแผนไว้แล้วหมดแล้ว บูมให้ทิวสัญญากับทิวไว้ก่อนจากกันไปเพื่อให้พอมั่นใจได้ว่าทิวจะรอบูมอยู่ และบูมก็พยายามอดทนที่จะมีชีวิตอยู่แบบนั้นเพื่อให้แม่ได้เห็นความมั่นคงในความรัก ได้เห็นตัวตนของบูมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ โชคดีที่แม่ได้เห็นและยอมรับได้แล้วแม้ว่าจะใช้เวลานานไปหน่อย ส่วนทิวนั้น บูมก็อยากให้ทิวได้เห็นว่าบูมไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องว่า บูมพร้อมที่จะอดทนและทำทุกอย่างเพื่อความรักได้เสมอ ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้มีวันนี้

"ที่เราขอยกเลิกสัญญานี้กับนายก็เพราะว่าเรา...สัญญากับแม่ไว้ว่าจะเลิกรักนาย เราก็เลยต้องยกเลิกสัญญานี้ให้แม่ก่อน เราจะไม่ได้ไม่ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เราไง"

ทิวฟังแล้วก็ขำอีกครั้ง ยกเลิกปุ๊บก็กลับมารักกันปั๊บเลยเนี่ยนะ แต่ก็เอาเถอะ ถ้ามันช่วยทำให้บูมสบายใจก็ไม่เป็นไรหรอก

"นายรู้ไหมว่า...ที่ความรักของเรามีอุปสรรคตลอด มันอาจจะเป็นเพราะว่า...เรายังทำอะไรบางอย่างไม่ครบนะ"

บูมเกริ่นขึ้นมาเมื่อต่างคนต่างเงียบกันไปสักพัก

"อะไรเหรอ" ทิวถามด้วยท่าทางอยากรู้

"รอเราแป๊บนึงนะ เดี๋ยวเรามา" บูมบอกแล้วก็ทำท่าจะเดินออกไป ทิวรีบคว้ามือไว้ทันที

"นายไม่ได้แกล้งเราอีกใช่ไหม"

บูมเห็นแล้วก็ขำ ทิวคงประสาทเสียที่ถูกแกล้งก็เลยยังหวาดระแวงอยู่นั่นเอง

"ไม่แกล้งหรอก เชื่อเรานะทิว เราไม่แกล้งให้นายเสียขวัญแบบนั้นอีกแล้วล่ะ รู้ไหมว่าเราก็เสียใจเหมือนกันนะที่แกล้งนายเมื่อกี้นี้"

บูมบอกด้วยสีหน้าเศร้าและรู้สึกผิด ทิวจึงค่อยๆ ปล่อยมือบูมออก

"เดี๋ยวเรามานะ"

บูมบอกแล้วก็เดินแกมวิ่งขึ้นไปบนชายหาด ตรงไปยังรถที่จอดไว้ใกล้ๆ แถวนี้ บูมเข้าไปในรถสักพักก็เดินกลับมาด้วยเสื้อสีขาวแขนสั้นคล้ายๆ ชุดนักเรียนมัธยม เมื่อทิวเพ่งมองดีๆ ก็เห็นว่ามันเป็นเสื้อนักเรียนมัธยมจริงๆ ด้วย แต่เหมือนจะมีอะไรเขียนไว้เต็มไปหมดเลย

พอบูมเดินเข้ามาใกล้ทิวจึงได้เห็นว่ามันเป็นเสื้อนักเรียนของบูมที่ใส่สำหรับให้เพื่อนเขียนเฟรนด์ชิปในวันสุดท้ายก่อนจบนั่นเอง

"เหลือนายคนเดียวที่ยังไม่ได้เขียนให้เราเหมือนกัน เขียนให้เราด้วย" บูมบอกพลางส่งปากกาให้ทิว

"นายยังใส่ได้อีกเหรอ" ทิวถามพลางขำแล้วรับปากกามา

"เราไม่ได้อ้วนขนาดนั้นซะหน่อย ก็ยังพอใส่ได้อยู่" บูมบอกแล้วก็ขำเล็กน้อย

ทิวนึกอยู่ไม่นานนักก็ค่อยๆ เขียนข้อความลงไปบนเสื้อนักเรียนของบูม พอเขียนเสร็จแล้วบูมก็ถามด้วยความอยากรู้

"นายเขียนว่าไง อ่านให้เราฟังด้วยสิ"

"อ่านเองสิ" ทิวบอกด้วยท่าทางเขินๆ

"ทำไมล่ะ คราวที่แล้วเรายังอ่านให้นายฟังเลย คราวนี้นายต้องอ่านให้เราฟังด้วยสิ นะ...ผลัดกัน"

ทิวมองบูมแล้วก็ยังลังเลเพราะรู้สึกเขินที่จะอ่านข้อความที่เขียน แต่พอเห็นบูมรออยู่ก็ทำให้ทิวรู้สึกกดดันจนสุดท้ายก็ต้องยอมอ่าน

"คนเดียวที่ทำให้โลกใบนี้อบอุ่นและน่าอยู่ตลอดมา"

ได้ฟังแค่รอบเดียวเท่านั้นบูมก็น้ำตารื้นแล้ว อดที่จะกอดทิวไว้ด้วยความรักสุดหัวใจอีกไม่ได้ จากนี้ไปบูมจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของทิวต้องอ้างว้างและเหน็บหนาวอีกแล้ว เราอยู่ตรงนี้แล้วนะทิว เราจะดูแลนายเอง เราจะดูแลกันและกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ความรักของเราได้ผ่านพ้นกาลเวลาที่ยาวนานและข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปหมดแล้ว

ทิวกอดบูมตอบ อ้อมกอดของบูมยังคงอบอุ่นเสมอ กลิ่นหอมอุ่นๆ จากผิวกายของบูมก็ยังเหมือนเดิม ทิวสูดดมกลิ่นนั้นแล้วก็หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข แม้ว่าจะจากกันไปถึงสองครั้งสองครา แต่ความรักก็ได้นำพาให้ผู้ชายที่แสนอบอุ่นคนนี้กลับมาหาทิวอีกครั้งจนได้ ชีวิตที่ไม่เหลือใครของทิวก็มีแต่บูมนี่แหละที่ยังคงเป็นที่พึ่งทางกายและใจให้กันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะนาทีไหนๆ ผู้ชายคนนี้ก็คือกำลังใจเดียวที่ทำให้โลกนี้ของทิวน่าอยู่และสดใสตลอดมา

ในขณะที่ทิวกำลังกอดกับบูมอยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนยืนจ้องมองดูอยู่ น่าจะอยู่ตรงนั้นมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เมื่อทิวเพ่งมองดีๆ พิจารณาจากรูปร่างและเสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็เริ่มจำได้ แต๋งนั่นเอง แต๋งกำลังยืนมองดูทิวกับบูมกอดกันอยู่ แม้จะเห็นไกลๆ แต่ทิวก็รู้ว่าคนที่ยืนมองอยู่นั้นไม่พอใจมากทีเดียว

หวังว่า...คงจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นอีกแล้วนะ ทิวเหนื่อยและล้าเกินไปที่จะสูญเสียคนที่รักไปครั้งที่สามแล้ว

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2015 08:00:03 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
คงจะไม่มีมาม่าอีกนะครับ
กินจนอิ่มแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
อ้ายยยยยย จบมาม่าแล้วสินะ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ได้กินของหวานแก้เลี่ยนมาม่าหน่อยก็ดี  ยังไม่จบแน่ๆเลย

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
อ้ากกก ดีใจ ที่มาม่าหมดแล้ว
บูมทิว น่ารัก >< ยังไม่อยากให้จบเลยครับบ  :z3:

ปล.แอบคิดว่าคนเขียนจะใจร้าย ตัดตอนนี้จบตรงบูมแกล้งทิว ดีใจที่ไม่ทำแบบนั้น ไม่งั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ 555
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399

โวะ มาต่อแล้ววว กรี๊ดดดด

ตอนนี้แอบหวานเบาๆ น่ารักจังเลย ทิวบูมมม อย๊ากกกก

จะจบแล้วเหรอ...ง่า คิดถึงแย่ แบบนี้ อยากให้คนเขียน เขียนนิยายออกมาอีก ชอบๆๆแนวนี้อะ อ่านสบายๆเพลินไม่มีเบื่อ

เหมือนชมต้นไม้ ดอกไม้อะ = =" เปรยอะไรของตรูเนี่ย ฮี่ๆๆ

ขอตอนจบหวานๆหน่อยนร๊า หลังจากที่ซดมาม่ากันมานาน

ทิวบูม <3 ชอบเรื่องนี้มากอะ แล้วก็ต้นสนด้วย ชอบมากๆจริงๆเลย :m1: :m1: :m1: :m11: :m11: :m11:

chai235

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ อย่ามามาม่าอีกนะ ไม่ใช่ว่าแต๋งทำเรื่องล่ะ T_T พอแล้วมาม่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด