โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

เส้นผมบังภูเขา


Aims Astro



ถาม – ถ้าเรามีผู้อาวุโสในครอบครัวกำลังป่วยและมีแนวโน้มว่าอาจจะอยู่อีกไม่นานนัก เพราะท่านก็ชรามากแล้ว แต่เราเศร้าและอาลัยอาวรณ์มาก ควรทำใจอย่างไรดีคะ


แม้ว่าความป่วยไข้และความตายนั้นจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็เป็นธรรมดาที่ไม่มีใครอยากพบความพลัดพรากนี้นะคะ เช่นเดียวกันกับลูกค้าหญิงที่ตรวจดวงกันมาหลายครั้ง (ขอสมมตินามว่าคุณเซียวเหล่งนึ่ง) มาคราวนี้ได้สนทนาเน้นหนักทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวค่ะ เริ่มต้นด้วยการที่ลูกค้าซึ่งสนใจโหราศาสตร์พอสมควร สงสัยว่าปลายปีนี้ที่ดาวเสาร์ย้ายไปทับจันทร์เดิมของเธอนั้นจะส่งผลอะไรหรือไม่ ตอบเธอไปตามหลักวิชาว่าสำหรับดวงชะตาของเธอนั้นไม่น่ากังวลมากนัก ในส่วนของดวงชะตาของเธอนั้น เห็นว่าในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป น่าจะมีเรื่องเครียดในบริษัท เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ มากกว่า สรุปว่าเสาร์ใครเสาร์มัน และต้องดูความหมายและการทำหน้าที่ของดาวดวงนั้นเป็นหลัก ไม่ใช่ดาวจรมาทับกันแล้วจะเป็นเรื่องแย่ๆ หายนะสถานเดียว ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ลูกค้าให้ข้อมูลว่าบริษัทมีโอกาสได้งานใหญ่ ต้องใช้เงินหมุนเวียนมหาศาล เจ้าของบริษัทดูว่ากดดันพอสมควร เมื่อเรื่องราวมีแนวโน้มเป็นจริงตามที่เห็นในดวงชะตาก็ปลอบลูกค้าว่าอย่างน้อยๆ ก็มีงานทำ แม้งานหนักทว่าโอกาสตกงานแทบไม่มี ดังนั้นขอให้สบายใจในส่วนนี้ เพราะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน


ส่วนปัญหาหนักใจอีกสองเรื่องของคุณเซียวเหล่งนึ่ง เรื่องแรกได้แก่ความป่วยไข้ของสัตว์เลี้ยงแสนรัก ลูกค้าเล่าว่าสุนัขที่เลี้ยงดูอย่างดีมานานจนกลายเป็นสุนัขชรา เริ่มเจ็บป่วย แล้วก็ดูว่าใกล้จะจากไปในเวลาไม่นานนัก เรื่องนี้ปลอบคุณเซียวเหล่งนึ่งไปว่าอันที่สุนัขจากไปก่อนคนเลี้ยงก็นับว่าดีเหมือนกัน เพราะถ้าคนเลี้ยงไปก่อน สุนัขจะลำบาก เหมือนที่เคยมีข่าวว่าสุนัขมารอเจ้าของที่เสียชีวิตไปแล้วทุกวันๆ ลูกค้าบอกว่าจริงด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจะน่าสงสารมากๆ ดีแล้วที่สุนัขไปก่อน ให้กำลังใจลูกค้าไปด้วยว่า ถ้าได้เลี้ยงดูกันมาอย่างดี ก็ไม่ต้องรู้สึกผิด หรือติดค้างอะไร คิดในแง่ดีว่าอาจจะเป็นโอกาสในการเปลี่ยนภพภูมิของเขา ได้ไปเกิดใหม่ในที่ดีกว่านี้ มีโอกาสทำความดีมากกว่าความเป็นดิรัจฉาน (อย่างเจ้าอุ๊ยโหย ในนวนิยายเรื่อง กรรมพยากรณ์ ตอน เลือกเกิดใหม่ เป็นต้น) คุณเซียวเหล่งนึ่งเล่าว่าได้เลี้ยงสุนัขมาอย่างดีมาก และตั้งใจจะช่วยให้เขาไปเกิดใหม่ให้ดีที่สุดด้วย





"...เป็นอย่างนี้แหละ ความโศก ความร่ำไรรำพัน
ให้เราพิจารณาดู ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเราไม่หนีมัน มันก็หนีเรา
คนก็เหมือนกัน เราไม่จากเขา เขาก็จากเรา มันอยู่ที่ ใครไปก่อนใครเท่านั้นเอง
บางทีวัตถุก็ไปก่อนเรา บางทีเราก็ไปก่อนวัตถุ บางทีคนใกล้ชิดเรา เขาก็ไปก่อน
บางทีเราไปก่อนเขา มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยของกรรม..."




จาก "แลกทุกข์กันไหม?" คำสอนของ พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
ที่มา
http://bit.ly/1uFx9Qa





อีกเรื่องที่ลูกค้าหนักใจ คือคุณย่าวัยชราที่ใกล้ชิดกันมากกำลังป่วย คุณเซียวเหล่งนึ่งซึ่งยังมีทั้งพ่อแม่อยู่กับตนเอง เล่าว่าเมื่อปีก่อนๆ ก็มีญาติผู้ใหญ่เสียชีวิต ทำให้เธอหดหู่อยู่นาน มาคราวนี้ก็เลยเกรงว่าจะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว ว่าไปแล้วเรื่องทำนองนี้มีลูกค้าปรารภบ่อยๆ ค่ะว่าไม่อยากเห็นคนที่รักหรือสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต (ในฐานะที่เป็นลูกสาวที่สนิทกับพ่อมาก พ่อของดิฉันเองก็เสียชีวิตไปประมาณสิบห้าปีแล้ว ดังนั้นเข้าใจดีว่าความพลัดพรากเป็นทุกข์อย่างยิ่งอย่างไรนะคะ) ก็มักจะปลอบลูกค้า มีใจความโดยสรุปว่า โลกนี้ไม่เราไปก่อนเขา เขาก็ไปก่อนเรา ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่พบความพลัดพราก ถ้าญาติผู้ใหญ่ไม่ไปก่อน เราก็ต้องไปก่อนท่านนะคะ เชื่อว่าสำหรับพ่อแม่ปู่ย่าตายายแล้ว การที่ลูกหลานเป็นฝ่ายทำศพให้ท่าน ย่อมรู้สึกดีกว่าการที่ท่านเป็นฝ่ายทำศพให้ลูกหลานค่ะ และถ้าหากรู้สึกว่าทุกข์เพราะความพลัดพรากนั้นแสนสาหัสขนาดไหน ก็ตั้งใจปฏิบัติธรรม จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด พบแล้วพรากแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอีก


ปลอบคุณเซียวเหล่งนึ่งไปว่า ผู้อาวุโสท่านก็สูงวัยอย่างยิ่งแล้ว ร่างกายก็เป็นรังของโรคอย่างที่เราทราบกันดี อีกทั้งก็ไม่มีใครหนีเรื่องนี้ไปได้พ้น เรื่องร่างกายนั้นปล่อยให้แพทย์ดูแลดีกว่าส่วนเธอผู้เป็นหลานก็มาดูแลจิตใจของท่าน ชวนคุณย่าทำบุญและระลึกถึงบุญที่ได้ทำไว้ดีแล้ว อย่าแสดงอาการเศร้าสร้อยเศร้าโศก ท่านจะได้สบายใจหมดห่วง ปิดท้ายด้วยการเสนอว่า อย่างเช่นระยะนี้ก็ใกล้จะช่วงกฐินกาล น่าจะไปหาวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพแล้วขอรับเอง เพื่อที่ว่าท่านผู้อาวุโสจะปีติและคิดถึงเรื่องงานบุญทั้งก่อนและหลังทำ ลูกค้าบอกว่าหลังวางสายจะไปหาข้อมูลทันที ว่าวัดไหนยังไม่มีเจ้าภาพกฐินบ้าง ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ (^/\^)


ก่อนวางสายนั้นคุณเซียวเหล่งนึ่งบอกว่าตอนนี้สบายใจมากแล้ว รู้สึกว่าอันที่จริงก็เป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขาเท่านั้นเอง เพราะความจริงของโลกคือ เราไม่จากเขา เขาก็จากเรา นี่คือธรรมดาของโลกที่เป็นอย่างนี้มาเสมอ


แม้ไม่มีใครอยากพบความพลัดพราก ทว่าเวลาที่พบความทุกข์เช่นนี้ก็เหมือนข้อสอบให้เราได้วัดตัวเองว่าธรรมะและการยอมรับความจริงของตนเองนั้นเป็นอย่างไร หากยังทุกข์มากๆ ยังทำใจไม่ได้ ทรมานเหลือเกิน ฯลฯ ถ้าเป็นอย่างนี้ ได้รู้แล้วจะได้เร่งขวนขวายปฏิบัติธรรม เพราะถึงที่สุดแล้วทุกคนก็ต้องมีวันที่ต้องจากทุกอย่างไปเป็นธรรมดาค่ะ


(^/\^)



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ
Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP