ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ 64 ยิ่งกดสั่ง ยิ่งแข่งขันกันสนุกกว่าเดิม (วิเคราะห์)
ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ปีที่ผ่านมาได้อานิสงส์จากสถานการณ์โควิด-19
ที่ผู้คนเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ร้านอาหารถูกสั่งให้เปิดบริการแบบสั่งกลับบ้านเพื่อเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
ทำให้ผู้คนต้องหันมาพึ่งบริการเดลิเวอรี่มากขึ้น
ส่วนร้านค้าเองจากร้านที่ไม่เคยมีบริการรับส่ง จากเมนูที่ไม่น่าจะเดลิเวอรี่ได้ ก็ปรับตัวกันหมด
ทั้งการเปิดบริการเดลิเวอรี่เอง และพึ่งพา Food Aggregator แอปฯ สั่งอาหารจากพี่ไรเดอร์หลากสี
ทำให้ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างน่าสนใจ
ส่วนปีนี้ 2564 ตลาดน่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากพฤติกรรมที่คุ้นชิน การซื้อของออนไลน์ การสั่งอาหารเดลิเวอรี่จะยังเป็นเทรนด์ที่อยู่ต่อไปในอนาคต
และเพราะจากการระบาดระลอกใหม่ รวมถึงมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนทำให้ตลาดเติบโตขึ้นไปอีก
อ้างอิงข้อมูลจาก euromonitor มูลค่าตลาดปี 2563 อยู่ที่ 68,000 ล้านบาท
ส่วนปีนี้คาดว่ามูลค่า ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ 64 จะเติบโตขึ้นมาอยู่ 74,000 ล้านบาท
และในปี 2567 ตลาดมีมูลค่า 99,000 ล้านบาท
ปี 2563-2567 ตลาดเติบโตเฉลี่ย 10%
2563 : 68,000 ล้าน
2564f : 74,000 ล้าน
2565f : 82,000 ล้าน
2566f : 90,000 ล้าน
2567f : 99,000 ล้าน
แล้วตอนนี้ในเวทีฟู้ดเดลิเวอรี่มีผู้เล่นมากน้อยแค่ไหน และแข่งกันอย่างไร
รายล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาในตลาดมาจากค่ายโทรคมนาคมอย่างทรูที่ส่ง “Truefood” ลงมาแย่งส่วนแบ่งตลาด
ชูจุดเด่นเนื่องของการไม่เก็บค่า GP รวมทั้งยังดึงลูกด้วยที่มี true point จะได้รับส่วนลดค่าส่ง
ส่วนปีที่ผ่านมาอีกน้องใหม่ที่ชูเรื่องการไม่เก็บค่า GP เหมือนกันคือ “Robinhood” ในเครือของ SCB
Gojek ที่ปีที่แล้วรีแบรนด์จาก Get มาเป็น gojek, lineman ที่ควบรวมกิจการกับวงใน ที่ได้เปรียบจากอินไซต์ข้อมูลร้านอาหารจากวงใน
ยังมีทั้ง grab, foodpanda นี่ยังไม่นับรวมร้านอาหารที่มีบริการเดลิเวอรี่ของตัวเองอีก
ทั้งหมดนี้ทำให้ตลาดแข่งกันสนุก และเข้มข้นกว่าเดิม
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ