say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #เมื่อหินผาจรดสายน้ำ ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ ครั้งที่ | “20”❖ ❖ ❖ ต่อค่ะ 70% ❖ ❖ ❖
“ว่าแต่ว่าปิดเทอมนี้เราต้องไปลงชุมชนกันแล้วนี่ ใช่ไหม” แบงก์พูดขึ้นกลางวงในระหว่างที่พวกเขานั่งกินข้าวกลางวันกันอยู่ เหลือวิชาที่จะต้องสอบอีกแค่ไม่กี่วิชาก็จะสิ้นสุดการเรียนในชั้นปีที่หนึ่ง ของเทอมหนึ่งแล้ว
“เออ ใช่... ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าเราจะต้องไปลงชุนชนกับพี่ ๆ เขาช่วงปิดเทอมนี้” ตั้มทำท่าเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้
“เราเพิ่งจะเรียนจบแค่เทอมเดียวเองใช่ไหม แต่ทำไมนี่รู้สึกเหมือนผ่านมาเป็นปีเลย” เบลถอนหายใจ เธอแทบอยากจะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะแล้วหลับ ๆ เสียให้มันรู้เรื่องไป
“จริงของเบล ยาวนานมาก แล้วคิดดูสิกว่าจะจบปีห้า ไม่ตายกันไปก่อนเหรอเนี่ย” มะนาวเองก็มีสภาพไม่ต่างกันกับเบลสักเท่าไหร่
สายน้ำกับอีกสองหนุ่มหัวเราะกับท่าทางของสองสาว “เอาน่ะ! อย่างน้อยเราก็ผ่านมาได้เทอมหนึ่งแล้วนะ ถ้าพวกเราช่วยกันเรียนไปแบบนี้ก็ต้องผ่านไปได้อยู่แล้วล่ะนะ”
“จริงอย่างที่สายน้ำว่า เอา! รีบกินข้าวกันก่อนเดี๋ยวบ่ายมีสอบอีกวิชานะจะได้มีแรงไปทำข้อสอบ” ตั้มหยิบช้อนส้อมในจานข้าวของเบลส่งให้เจ้าตัว ก่อนจะหันไปหาสายน้ำ “เออแล้วเรย์ล่ะ วันนี้อยู่ห้องเหรอ”
“ใช่” สายน้ำพยักหน้ารับ “เรย์บอกขี้เกียจออกมา ร้อน แถมเราก็ยังสอบกันทั้งวันอีก เลยขอนอนอยู่ห้องดีกว่าน่ะ”
สายน้ำได้พาเรย์มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งสี่คนรู้จักแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้ากันได้ดีกับเรย์
“แล้วนี่เรย์จะกลับตอนไหน หรือว่าอยู่อีกยาว”
“ช่วงอาทิตย์หน้าเรย์ก็กลับแล้วล่ะ แอบเสียดายเหมือนกันเรย์มาช่วงสอบพอดีเลยไม่ค่อยได้พาไปเที่ยวไหนเท่าไหร่เลย” สายน้ำบ่น นึกเสียดายปนเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ไม่ค่อยมีเวลาเพื่อนคนนี้ไปเที่ยวสักเท่าไหร่เพราะเขาต้องเร่งอ่านหนังสือเตรียมสอบ แถมพอจังหวะที่สอบเสร็จเรย์ก็ต้องเตรียมตัวกลับแล้ว
พวกเขารีบจัดการกับอาหารตรงหน้าหลังจากที่นั่งคุยกันเพลินจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มีสอบอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่ง พอมีเวลาเหลือก่อนเข้าห้องสอบพวกเขาจึงนั่งติวกันถึงเนื้อหาที่จะใช้สอบในวิชาถัดไป ผลัดกันถามคำถาม แล้วก็ตอบเพื่อเป็นการทบทวนไปในตัว
สายน้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เขาส่งข้อความหาหินผาตั้งแต่ก่อนกินข้าวจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมา วันนี้หินผามีสอบวิชาเดียวตอนเช้า และตอนนี้อีกฝ่ายก็น่าจะสอบเสร็จแล้ว แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะปิดเสียง หรือปิดเครื่องเอาไว้ตั้งแต่ตอนเข้าห้องสอบแล้วลืมเปิด สายน้ำส่งข้อความไปอีกรอบเพื่อบอกว่าเขากำลังจะเข้าสอบในช่วงบ่าย จัดการปิดเครื่องเอาไว้แล้วเดินเข้าไปในห้องสอบเมื่อถึงเวลา
เขาตั้งสมาธิกับการทำข้อสอบ ตั้งใจอ่านโจทย์แล้วก็คำตอบอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้ตอบไม่พลาด ข้อไหนที่เจ้าตัวยังไม่แน่ใจก็ข้ามไปก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาทำใหม่อีกครั้ง เวลาในการสอบสองชั่วโมงจะว่าผ่านไปเร็วก็เร็ว ผ่านไปช้าก็ช้าในความรู้สึกของคนที่นั่งอยู่ในห้องสอบ
สายน้ำเช็คคำตอบของตัวเองอีกรอบเมื่อได้ยินอาจารย์ประกาศเรื่องเวลาที่เหลืออยู่ เช็คจนแน่ใจว่าเขาทำข้อสอบครบทุกข้อ ไม่มีข้อไหนตกหล่นไปก็วางกระดาษคำตอบคว่ำลง และรอเวลาที่จะออกจากห้องสอบ
เสียงอาจารย์ประกาศแจ้งหมดเวลาในการทำข้อสอบดังขึ้น นักศึกษาต่างพากันทยอยลุกออกจากโต๊ะ รวมถึงสายน้ำด้วย ทันทีที่ออกมาพ้นเขตห้องสอบก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่วิชานี้ผ่านพ้นไปเสียที
“โล่งแล้ว... เหลืออีกสองวันเราก็จะเป็นไทยแล้ว!” แบงก์ชูมือขึ้นเหนือหัวแล้วร้องออกมาหลังจากที่เดินลงมาถึงข้างล่างแล้ว
“สู้โว้ยมึง!” ตั้มยกแขนกอดคอเพื่อนสนิทตัวเอง “จะแยกย้ายกันเลยไหม”
“เราสองคนแยกเลยนะ ไม่ไหว ขอกลับไปนอนก่อนค่อยมาลุยอ่านหนังสือต่ออีกรอบ” เบลพูดโดยมีมะนาวพยักหน้ารับเป็นลูกคู่อยู่ข้าง ๆ กัน
“โอเค ตามนั้น ขับรถกลับกันดี ๆ นะ ระวังด้วย”
“จ้า ไปแล้ว เจอกันนะ” เบลกับมะนาวโบกมือลาเพื่อนทั้งสามคนก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“แล้วมึงอ่ะ พี่หินผามารับไหม หรือว่ากลับพร้อมพวกกูเลย” ตั้มหันมาถามสายน้ำที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่
“กลับพร้อมพวกมึงเลยก็ได้” สายน้ำตอบแต่สายตาของเขายังไม่ละจากโทรศัพท์
“ทำไม มีอะไรวะ” แบงก์เดินเข้ามาใกล้ ก้มมองโทรศัพท์ในมือเพื่อน
“เออ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“ไม่มีอะไร พอดี... พี่หินผาไม่ตอบไลน์ก็เลยสงสัยน่ะ ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว” สายน้ำส่ายหน้าไปมา “แต่คงไม่มีอะไรหรอก”
“พี่เขามีสอบหรือเปล่า”
“มี” เขาพยักหน้า “แต่แค่ตอนเช้าน่ะ ตอนบ่ายไม่มีสอบอะไรแล้ว”
“พี่เขาอาจจะลืมเอาโทรศัพท์มาด้วยก็ได้มั้ง ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก มึงวางใจเถอะ เขาอาจจะยุ่ง ๆ เรื่องอะไรอยู่” ตั้มพูดเพื่อให้เพื่อนสบายใจ
“คงจะอย่างนั้นแหละ ไปเถอะ กลับกันดีกว่า” สายน้ำเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตัวเอง ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะพากันเดินไปที่รถของแบงก์เพื่อกลับคอนโดบ้าง
“เดี๋ยวกูแวะซื้อขนมเค้กร้านประจำก่อน มึงจะเอาอะไรไหม” ตั้มที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับหันมาถามสายน้ำที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“เอาสิ เดี๋ยวกูลงไปดูด้วย จะได้ลงไปซื้อเผื่อเรย์ด้วย” สายน้ำพยักหน้ารับ
แบงก์เปิดไฟเลี้ยวเพื่อชิดซ้ายเมื่อใกล้ถึงร้านขนมที่ว่า ก่อนจะจอดสนิทอยู่หน้าร้าน พวกเขาทั้งสามคนลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปในร้าน
“อ้าว นั่นพี่หินผานี่” แบงก์ที่หันไปเห็นพอดีร้องขึ้นเรียกสายตาของสายน้ำแล้วก็ตั้มให้หันไปมอง “มากับใครล่ะนั่น”
“หือ…” สายน้ำหันไปมองตรงบริเวณที่แบงก์มองไป เป็นหินผาจริงอย่างที่เพื่อนบอก เจ้าตัวนั่งอยู่ที่โต๊ะกับใครอีกคน “เอ๊ะ นั่น… เรย์นี่นา”
“เออ จริงด้วย มาด้วยกันได้ยังไงวะ เรย์กับพี่หินผาสนิทกันเหรอ” ตั้มหันมาถามสายน้ำ
คนโดนถามส่ายหน้า “ก็ไม่ได้สนิทมากนะ”
แม้ว่าสายน้ำจะเคยพาเรย์ไปเจอกับหินผาบ่อยครั้งแต่ทั้งคู่ก็ไม่สนิทสนมกันถึงขนาดที่จะออกมาด้วยกันได้ เพราะอย่างนั้นสายน้ำเลยค่อนข้างแปลกใจที่เห็นเพื่อนตัวเองกับคนรักมาอยู่ด้วยกันแบบนี้
ดูเหมือนว่าหินผาจะหันมาเห็นพวกเขาแล้ว เจ้าตัวยิ้มออกมาก่อนจะลุกเดินมาหา แบงก์กับตั้มยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ “สวัสดีครับ”
“อือ สอบเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ” หินผาถาม
“ครับ” แบงก์กับตั้มขอตัวแยกไปเลือกขนม ตรงนี้เลยเหลือหินผากับสายน้ำ
“มายังไงครับเนี่ย” สายน้ำหันมาถามคนรักของตัวเอง
“ขับรถมาครับ” หินผาตอบยิ้ม ๆ “ล้อเล่น แต่พี่ก็ขับรถมาจริง ๆ นะ”
“ผมหมายถึงว่าพี่แวะมาที่ร้านนี้ได้ยังไง แล้วทำไมถึงอยู่กับเรย์ได้ล่ะครับ”
“อ่อ… คืนนี้เราไปค้างห้องพี่ได้ไหม” หินผาไม่ตอบ แต่ถามคำถามกลับมาแทน “พี่บอกเรย์แล้วว่ามีเรื่องอยากคุยกับเรา เลยจะให้เราไปค้างด้วยกันที่ห้อง นี่พี่ก็แวะมารอเรานั่นแหละตั้งใจว่าจะมาซื้อขนมเค้กให้เราไว้กิน เป็นรางวัลของการสอบในวันนี้”
“แล้วพี่กับเรย์มาอยู่ด้วยกันได้ยังไงครับ”
“เอาไว้คุยกันที่ห้องพี่นะครับ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วยหลายเรื่องเลย”
“ก็ได้ครับ อย่างนั้นเดี๋ยวผมไปบอกเพื่อนก่อน ว่าแต่พี่จะซื้ออะไรไหมครับ”
“เรียบร้อยแล้วล่ะ เราไปคุยกับเพื่อนก่อนเถอะ”
“ครับ” สายน้ำพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ “แบงก์ตั้มเดี๋ยวกูไปกับพี่หินผานะ”
“จะเอาคีย์การ์ดไปไหม” เรย์ถามขึ้นเมื่อสายน้ำหันมาคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ เพราะวันนี้เรย์ต้องอยู่ห้องคนเดียวสายน้ำเลยให้คีย์การ์ดห้องไว้เพื่อเรย์จะลงมาซื้ออะไรกิน
“ไม่เป็นไร เรย์เอาไว้ใช้ พี่หินผามีคีย์การ์ดอยู่ถ้าจะกลับแล้วเดี๋ยวเอาจากพี่หินผาก็ได้” สายน้ำว่าพลางชี้นิ้วไปทางหินผา
“โอเค แล้วเจอกัน”
“แล้วเจอกัน” สายน้ำตอบ หันไปคุยกับแบงก์แล้วก็ตั้มอีกเล็กน้อยฝากเพื่อนทั้งสองคนพาเรย์ไปส่งที่ห้องด้วย ก่อนจะเดินแยกมาหาหินผาที่ยืนรอยู่
“พี่หินผาจอดรถไว้ที่ไหนเหรอครับ” สายน้ำถาม เดินตามคนอายุมากกว่าออกจากร้าน เขามองรถที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านนี้แต่ก็ไม่เห็นรถของอีกฝ่ายจอดอยู่เลย
”พี่จอดเอาไว้ที่คอนโดของเรา แล้วก็เดินมาน่ะ” หินผาตอบพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือของสายน้ำเอาไว้ แล้วจับมือเดินไปถึงคอนโด
หินผาขับรถออกจากคอนโดของสายน้ำเพื่อกลับไปที่คอนโดของตัวเอง แวะซื้อมื้อเย็นที่ร้านใกล้ ๆ คอนโด วนหาที่จอดรถอยู่ไม่นานก็ได้ที่จอด สายน้ำก้าวลงจากรถหลังจากที่รถจอดสนิท ในมือมีกระเป๋าของตัวเอง รวมไปถึงกล่องข้าวแล้วก็กล่องขนมเค้กที่หินผาซื้อมา
“พี่ช่วยถือ” หินผาแย่งของในมือของสายน้ำไปถือเอาไว้เอง คว้ามือของสายน้ำมาจับแล้วพาเดินเข้าไปข้างใน มือของหินผาไม่ยอใปล่อยออกจากมือของสายน้ำเลยจนกระทั่งถึงห้อง
“กินข้าวก่อนเลยไหม กำลังร้อน ๆ อยู่เลย” หินผาหันมาถาม เขาเดินเข้าไปจัดการเทข้าวใส่จานให้เรียบร้อย ขนมเค้กที่ซื้อมาก็เก็บเข้าตู้เย็นเอาไว้ก่อน
“ผมช่วยครับ”
สายน้ำเดินเข้าไปช่วยหยิบจาน หยิบช้อนมาส่งให้หินผา หันไปหยิบเหยือกน้ำในตู้เย็นออกมารินน้ำใส่แก้วแล้วยกไปวางบนโต๊ะ
ตั้งแต่กลับมาถึงห้อง จนพวกเขากินข้าว อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยหินผาก็ยังไม่พูดถึงเรื่องที่อยากจะคุยกับสายน้ำสักที จนสุดท้ายคนที่ทนมาไหวก็คือสายน้ำ เขาเรียกคนพี่ที่เดินไปเดินมาไม่หยุดให้มานั่งด้วยกันที่โซฟา
“ที่พี่บอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับผม มีเรื่องอะไรเหรอครับ” สายน้ำถามเข้าประเด็นทันที “แล้วพี่ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะว่าพี่ไปอยู่กับเรย์ได้ยังไงกัน บังเอิญเจอกันเหรอครับ”
“ก็เปล่า ไม่ได้บังเอิญเจอกันหรอก”
“อ้าว”
“เรย์ส่งข้อความมานัดพี่ ว่าอยากคุยด้วย” หินผาตอบ แต่นั่นก็ยิ่งสร้างความงุนงงให้กับสายน้ำมากกว่าเดิมเสียอีก
“เดี๋ยวนะครับ เรย์ส่งข้อความหาพี่อย่างนั้นเหรอครับ แล้ว... เรย์มีเบอร์ของพี่ได้ยังไงกัน”
“จำได้ไหม... ที่พี่บอกว่าเราโทรหาพี่ วันที่เราบอกว่าหาโทรศัพท์ไม่เจอนั่นแหละ”
สายน้ำทำหน้านึกก่อนจะพยักหน้ารับ “ครับ จำได้ครับ”
“วันนั้นคนที่โทรมาหาพี่ก็คือเรย์ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร พอพี่โทรกลับไปก็ไม่รับ เรย์คงจะเอาเบอร์โทรศัพท์พี่มาตอนนั้นนั่นแหละ”
“แล้วเรย์จะเอาเบอร์โทรศัพท์ของพี่ไปทำไมกัน” คิ้วของสายน้ำขมวดเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจเลยว่าเรย์จะทำแบบนั้นทำไม และเขาก็ไม่คิดว่าหินผาจะพูดโกหกด้วย
“เรย์บอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับพี่ เกี่ยวกับเรา ก็เลยนัดกันคุยวันนี้นี่แหละ”
“เรื่องอะไรครับ”
หินผมยิ้มขำกับอาการใจร้อนของคนรัก เขายกมือขึ้นวางลนผมนุ่มของสายน้ำแล้วลูบเบา ๆ “นี่คงไม่ได้แอบคิดอะไรไม่ดี ๆ อยู่หรอกใช่ไหม อย่างเช่น... พี่กับเรย์แอบนัดพบกันลับหลังเราน่ะ”
“ค ใครจะไปคิดอะไรแบบนั้นล่ะครับ!”
“ไม่คิดก็ไม่คิดครับ”
“รีบ ๆ เล่าต่อเลยครับ”
“โอเคครับ” หินผายิ้ม “วันนี้พี่มาคุยกับเรย์ ส่วนใหญ่ก็เรื่องของเราทั้งนั้นนั่นแหละ เรย์ถามพี่อย่างจริงจังว่าพี่ชอบเรา รักเราจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ได้คิดจะหยอกเล่นหรือแค่คบเล่น ๆ ใช่ไหม เรย์เขาเป็นห่วงเรามากนะ”
“ครับ ผมรู้ว่าเรย์เป็นห่วงผม” สายน้ำพยักหน้า
“เราเคยเล่าเรื่องของพี่ให้เรย์ฟังใช่ไหม” หินผาถาม พอสายน้ำพยักหน้ารับเขาก็พูดต่อ “พอเรย์รู้ว่าน้ำคบกับพี่ก็เลยเป็นห่วง กลัวว่าที่เราคบกันเป็นเพราะพี่รู้ว่าเขาชอบพี่ แล้วก็สงสาร เพราะยังไงก็เคยสนิทกันมากตอนเด็ก ๆ น่ะ”
“แต่พี่ก็บอกเรย์ไปแล้วว่าที่เราคบกัน ไม่ใช่เพราะพี่เห็นใจหรือสงสารเรา แต่เพราะ... พี่รักเรา”
สายน้ำไม่รู้ว่าเขาควรจะทำหน้าอย่างไรดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ “อ่า...”
“แต่ว่านะ” หินผาเปลี่ยนสีหน้าจากมองน้องตาหวานเชื่อมเป็นทำหน้าโหดจนสายน้ำตามไม่ทัน “ทำไมเราถึงไม่เคยบอกพี่เลยว่าเรย์น่ะ... ชอบเรา”
“อ่า...” สายน้ำยิ้มแหยเมื่อโดนถามแบบนั้น
“เรารู้ใช่ไหมว่าเรย์เขาคิดยังไงน่ะ” ถามออกมาเสียงเข้ม มองน้องด้วยสายตาดุ ๆ
ได้แต่พยักหน้ารับไป เพราะคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหก “รู้ครับ เรย์เคยบอกกับผมว่าเขาชอบผม”
“พี่เองก็คิดแบบนั้น คิดว่าเรย์น่าจะชอบเรา พี่รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว” หินผาถอนหายใจออกมา
“รู้ได้ยังไงครับ”
“สายตาของเรย์ พี่รู้สึกว่าเวลาที่เรย์มองพี่กับมองเรามันต่างกัน แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอนึกไปนึกมาก็คิดว่าใช่ สายตาที่เรย์มองเรา ไม่ต่างอะไรกับสายตาที่พี่มองเราเลยสักนิด เพราะชอบมากจนปิดเอาไว้แทบไม่ไหว”
“แต่เรย์ก็รู้ครับว่าผมไม่ได้ชอบเรย์ แล้วเรย์ก็รู้ด้วยว่าผมชอบพี่มากแค่ไหน เพราะความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ก็มากจนปิดเอาไว้ไม่มิดเหมือนกัน” สายน้ำอมยิ้มที่เห็นคนพี่ชะงักไปตอนที่เขาพูด “วันที่เรย์มาบอกว่าชอบผม เรย์ก็บอกต่อเลยว่ารู้ว่าไม่มีทางที่ผมจะชอบเขาตอบได้ เพราะสายตาของผมไม่เคยมองเขาแบบพิเศษเลย”
สายน้ำถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “จริง ๆ ผมก็แอบรู้สึกผิดกับเรย์เหมือนกัน เรย์เป็นเพื่อนคนแรก เป็นเพื่อนคนสำคัญมาก ๆ สำหรับผม เรย์เป็นคนเดียวที่ไม่แกล้งผมตอนที่ผมย้ายไปที่นู้น เรย์ทั้งดูแล ทั้งปกป้องผม ผมเลยเสียใจที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเรย์ได้”
“เราไม่สามารถบังคับ หรือห้ามความรู้สึกกันได้”
“ใช่ครับ เรย์ก็พูดแบบนั้น เรย์บอกว่าเรย์ไม่สามารถบังคับให้ผมหันไปชอบได้ ก็เหมือนกับที่ผมไม่สามารถบังคับให้เรย์เลิกชอบผมได้เหมือนกัน”
“พี่ดีใจนะ” หินผาลูบผมของน้อง “ดีใจที่เราได้เพื่อนที่ดีอย่างเรย์ ดีใจที่ในตอนที่พี่ไม่ได้อยู่ด้วย ไม่ได้ดูแล ไม่ได้ปกป้องเรา มีคนมาทำหน้าที่นั้นให้ แม้อีกใจหนึ่งของพี่กำลังนึกหึงย้อนหลังไปก็ตามที”
“แบบนั้นได้ที่ไหนกันล่ะครับ”
หินผาหัวเราะ เขาดึงตัวสายน้ำเข้ามาใกล้ก่อนจะกอดเอาไว้ “ดีจริง ๆ ที่เราไม่เปลี่ยนใจจากพี่ไปชอบเรย์ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่มีความสุขแบบตอนนี้แน่ ๆ เลย”
“ผมก็ดีใจครับ”
“ดีใจเรื่องอะไร”
“ดีใจที่ผมตัดสินใจย้ายมาเรียนที่นี่ ดีใจที่ผมตัดสินใจตามพี่มา เพราะมันทำให้ผมได้อยู่กับพี่แบบนี้ไงครับ”
“หึหึ... แล้วพี่จะไม่ปล่อยให้หนีกลับไปแล้วนะ”
“คร้าบ”
หินผารัดคนในอ้อมแขนแน่น ๆ อย่างมันเขี้ยวกับท่าทางของสายน้ำ จัดการฟัดแก้มขาวของน้องไปทีจนสายน้ำต้องดิ้นหนี
ซึ่งกว่าจะหลุดออกมาได้แก้มของสายน้ำก็แดงช้ำไปหมด สายน้ำหนีไปนั่งที่โซฟาอีกตัวพร้อมมองหินผาตาขวาง คนอายุมากกว่าหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคนรักของตัวเอง รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เห็นสายน้ำทำตาขวางใส่ ใบหน้าหล่อ ๆ ตอนทำหน้าเหวี่ยง ๆ นั้นก็ดูดีไม่ใช่เล่น
หินผาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปของสายน้ำเอาไว้ ตั้งใจว่าจะโพสต์ลงแกล้งแหย่สายน้ำเล่น ๆ เขาจัดการแท็กรูปเมื่อครู่ไปถึงสายน้ำ
HINPAA TARYN ได้แท็กรูปภาพถึง TARA SAINAM WILKINSON
โดนแกล้งจนหน้าบึ้งไปหมดแล้ว
หมดหล่อเลยเดือนมหา’ลัย❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖
ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวลจ้า เรย์แค่เป็นห่วงเพื่อนเฉย ๆ
ไม่ได้มีคิดนอก คิดใน คิดไปไกล คิดเกินเลยใด ๆ กับพี่หินผาเลย
และก็รับรู้สถานะของตัวเองดีว่าอยู่ตรงไหนสำหรับสายน้ำ อิอิ
ยังไงก็... ขอคอมเมนต์กำลังใจหน่อยเนอะ
ช่วงนี้ทุกอย่างมันแลตึงเครียดไปหมด การเศรษฐกิจ ทั้งไวรัส
มันส่งผลกระทบไปหมดเลย ก็เลยอยากได้กำลังใจค่ะ
ถ้าไม่มากเกินไป หรือไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรก็ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยน้า
จะได้มีกำลังใจในการเขียนนิยายต่อจ้า
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า
ปล. เค้ามี Line@ แล้วน้า แอดมาคุยเล่น ติดตามข่าวได้เลยนะ
Line@ : @f.gc (มี @ มี . (จุด) ด้วยน้า)
#เมื่อหินผาจรดสายน้ำ