แปลงบ้านพิษณุโลกเป็นโรงแรมเถอะ
  AREA แถลง ฉบับที่ 721/2563: วันศุกร์ที่ 04 ธันวาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            บ้านพิษณุโลกไม่ได้มีการใช้สอยจริงจัง เป็นความสิ้นเปลืองของแผ่นดิน ดร.โสภณ จึงเสนอให้ใช้เพื่อเป็นโรงแรม หารายได้เข้าแผ่นดิน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินให้ความเห็นว่า บ้านพิษณุโลกมีห้องหับมากมาย หากแปลงสภาพเป็นโรงแรม 6 ดาว แบบที่ในต่างประเทศนิยมนำปราสาทราชวังมาทำเป็นโรงแรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็น่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นการบริหารทรัพย์สิน นำเงินมาพัฒนาประเทศ

            ทั้งนี้มีแนวทางการดำเนินการคือจัดการประมูลให้โรงแรมเครือดังทั่วโลก รวมทั้งนักลงทุนไทย มาเช่าใช้ในระยะยาวโดยดัดแปลงเป็นโรงแรม เพราะในอาคารบ้านพิษณุโลกมีห้องหับมากมาย น่าจะสามารถดัดแปลงเป็นโรงแรมได้เป็นอย่างดี สนนราคาก็สามารถกำหนดให้แตกต่างกันไปได้ตามกลไกตลาด  และเนื่องจากบ้านพิษณุโลกมีประวัติอันยาวนาน จึงน่าที่จะเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และเมื่อปรับปรุงเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้าและโควิด-19 หมดไปแล้ว ก็น่าจะมีความต้องการใช้สูงมาก

            อย่างไรก็ตามบางท่านอาจกังวลว่าบ้านพิษณุโลกมีผี ซึ่งคงเป็นเรื่องเท็จ (ผีไม่มีจริง) แต่การแปลงสภาพเป็นโรงแรม มีผู้คนพลุกพล่าน และคนเข้าพักก็หมุนเวียนไปเรื่อย หลายชาติ หลายภาษา หลายศาสนา ดร.โสภณกล่าวอย่างติดตลกว่า (ถ้าคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์) ผีก็คงพัฒนาการทางสมองให้จดจำผู้เข้าพักไม่ได้ เพราะมีการเข้าออกตลอดเวลา จึงอาจหลอกผีไม่ถูกก็เป็นไปได้  แถมยังมีพนักงานทำงานตลอด 24 ชั่วโมง  โอกาสการหลอกคนก็คงมีน้อยลงตามลำดับ

            ถ้าบ้านพิษณุโลกสามารถสร้างรายได้จากการให้เช่าสุทธิที่เดือนละ 10 ล้านบาท ก็คงเป็นเงินปีละ 120 ล้านบาท หากแปลงรายได้เป็นมูลค่าด้วยอัตราผลตอบแทนที่ 5% ต่อปี ก็ได้มูลค่าของบ้านถึงประมาณ 2,400 ล้านบาท สามารถนำเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาประเทศได้อีกหลากหลาย  ในกรุงเทพมหานคร ยังมีวังเก่า ปราสาทหรือบ้านหลังใหญ่ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์น้อยกว่าที่ควรอีกหลายแห่ง รัฐบาลควรนำมาแปลงสภาพเพื่อหารายได้เข้าหลวง นำมาพัฒนาประเทศต่อไป

            อนึ่งตาม Wikipedia กล่าวว่า “บ้านพิษณุโลก หรือชื่อเดิมคือ บ้านบรรทมสินธุ์ เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเรือนรับรองแขกสำคัญของรัฐบาลไทย เป็นบ้านแบบสถาปัตยกรรมกอทิกเวเนเทียน ออกแบบและสร้างโดยมาริโอ ตามานโญ สถาปนิกชาวอิตาลี มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน ตั้งอยู่บริเวณถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล รัชกาลที่ 6 สร้างเมื่อ พ.ศ. 2465 โดยมีมาริโอ ตามานโญ สถาปนิกชาวอิตาลีประจำกระทรวงโยธาธิการเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างและออกแบบบ้าน และพระราชทานให้กับพระยาอนิรุทธเทวา อธิบดีกรมมหาดเล็ก และผู้บัญชาการกรมมหรสพซึ่งเป็นมหาดเล็กส่วนพระองค์”

            “รัฐบาลยุคต่อมาได้ปรับปรุงบ้านพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่สมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในปี พ.ศ. 2522 และมาแล้วเสร็จในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในปี พ.ศ. 2524 พลเอกเปรม ได้ย้ายเข้าไปพัก แต่ก็อยู่เพียง 2 วัน จึงย้ายออกไปพักที่บ้านพักเดิมคือ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ในยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ทำการของคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยเรียกกันติดปากสื่อมวลชนว่า "ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก"แต่ไม่ได้มีการใช้เป็นที่พัก โดยนายกรัฐมนตรียุคต่อมามีเพียง นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายที่เข้าพักบ้านพิษณุโลกหลังนี้และอยู่ได้นานทั้งสองสมัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยได้ใช้โซฟาในห้องทำงานซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน” https://bit.ly/3mK9wXe)

 

อ่าน 5,650 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved