แม้ว่าในขณะนี้จะมีวิกฤตหลาย ๆ ปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจแต่ก็ยังมีสิ่งที่เราจะสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เช่นกัน Lazudi ชวนอ่านบทความที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและใหม่กับการ “รู้จักการลงทุนอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC ลงทุนน้อยกำไรมาก” จากสถานการณ์ทั้งโรคระบาด ขาดแคลนรายได้เข้าประเทศ วงการอสังหาริมทรัพย์ก็ประสบปัญหาไม่ต่างกันแต่สิ่งที่ยังน่าสนใจคือ ราคาที่ดินทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในโซน EEC มีราคาที่ค่อนข้างดีและยังสามารถเติบโตได้อีกในอนาคต เพราะฉะนั้นอย่าช้าที่จะคว้าโอกาสเพราะนักลงทุนที่ดีควรลงทุนให้ไว!
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2554 – พ.ศ. 2563) ราคาผืนที่ดินโซน ECC ขึ้นอยู่ในช่วงระหว่าง 30-50% และมีการคาดการณ์ในอนาคตว่า 5-10 ปีหน้าจะยังมีราคาที่สูงขึ้นได้อีก
จุดเด่นพิเศษอีกข้อของการลงทุนอสังหาฯ ใน ECC : ผืนที่ดินของ ECC นอกจากเพื่อการอยู่อาศัยยังสามารถรองรับด้านบริโภคและอุตสาหกรรมได้อีกด้วย มีการคาดการณ์ว่าจะมีคนเข้ามาทำงานใน EEC ราว ๆ 500,000 คน ซึ่งที่นี้ก็จะมีทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรือเช่าบ้านจัดสรรต่าง ๆ หรือคิดจะอยู่ลงหลักปักฐานซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน ก็ส่งผลถึงความต้องการทั้งซื้อ-ขาย กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น
EEC คืออะไร?
EEC ย่อมาจาก Eastern Economic Corridor เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา
ความน่าสนใจและตัวอย่างราคาที่ดินใน EEC ทั้ง 3 จังหวัด
“จังหวัดชลบุรี” พื้นที่นี้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยว โรงงานอุตสาหกรรม ร้านอาหาร ไว้มากมาย ทำเลอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สะดวกต่อการเดินทาง ค่าครองชีพก็ไม่สูงมาก
ตัวอย่างราคาที่ดิน : ที่ดินราคาแพงสุดในจังหวัดชลบุรีอยู่ในอำเภอศรีราชา เปรียบเสมือนแหล่งที่อยู่อาศัยหลักในจังหวัดชลบุรี
- บริเวณที่ติดถนนไร่ละ 80 ล้านบาท (+-)
- ที่ดินบริเวณที่ติดทะเลหรือหาด อยู่ในช่วงราคาไร่ละ 100 ล้านบาท (+-)
- ที่ดินในซอยหรือไม่ติดถนนมาก ราคาในช่วงปี 2561-2563 ไร่ละ 2-3 ล้านบาท หลังจากมีไวรัสโควิด-19 ระบาดก็ไม่ได้ส่งผลให้ราคาตกแต่กลับเพิ่มขึ้นมา เสนอขายกันที่ไร่ละ 5 ล้านบาท
- พื้นที่ดินขายเพื่อรองรับโรงงานอุตสาหกรรมหรือทำบริษัท บริเวณใกล้ชุมชน แปลงเล็ก ราคาอยู่ที่ไร่ละ 15 ล้านบาท หากที่ดินแปลงใหญ่ขนาดมากกว่า 10 ไร่ อยู่บริเวณนอกเมืองหรือไม่ใกล้ชุมชนมาก จะถูกลงมาราว ๆ ไร่ละ 2 -4 ล้านบาท (+-)
รวมอสังหาฯ ในชลบุรีโดยเอเจนท์ Lazudi
“จังหวัดระยอง” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีนิคมอุตสากรรมค่อนข้างมาก โดยมีมาบตาพุดซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหลัก แต่ระยองนั้นต่างจากชลบุรีอยู่ที่มีมลพิษในหลายพื้นที่อยู่ จำเป็นต้องมีการจำกัดและควบคุมปริมาณมลพิษต่าง ๆ
ตัวอย่างราคาที่ดิน : ก่อนที่จังหวัดระยองจะเข้าสู่การเป็นหนึ่งในจังหวัด ECC ทำเลถนนสายรองหรือถนน 2 เลน ราคาตลาดทั่วไปตกไร่ละ 5 ล้านบาท แต่หลังจากเป็นเขตพัฒนา EEC แล้ว ปัจจุบันราคาขึ้นไปถึงไร่ละ 20 ล้านบาท แล้วแต่ทำเลแต่ละบริเวณ และในส่วนของถนนสุขุมวิท ทำเลสายหลักราคาปัจจุบันก้าวกระโดดไปที่ไร่ละ 40 ล้านบาท
“จังหวัดฉะเชิงเทรา” หนึ่งในจังหวัดที่มีทำเลศักยภาพและสามารถก้าวสู่การเป็นเมืองที่มีโรงงานหรือแหล่งอุตสาหกรรมได้แน่นอน โซนหรืออำเภอที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นแปดริ้วในบริเวณถนนใหญ่ และยิ่งในขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังจะสร้างทางด่วนมอเตอร์เวย์สายใหม่บนถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ราคาสูงถึงไร่ละ 13 – 15 ล้านบาท
หากผู้อ่านสนใจซื้ออสังหาเพื่ออยู่เองหรือลงทุนในกทม. หรือทำเลจังหวัดที่มีศักยภาพในประเทศไทย สามารถติดต่อ Lazudi เรามีทีมพร้อมช่วยเหลือที่มากด้วยประสบการณ์และเชี่ยวชาญ ติดต่อหรือสอบถามเรา คลิก!
บทความที่เกี่ยวข้อง
Top 4 โครงการมาใหม่น่าสนใจ ทำเลพัทยา ปี 2021
รวม 5 โครงการทั้งบ้านเดี่ยว พูลวิลล่า คอนโด ทำเลในภูเก็ต สวยน่าอยู่ ลงทุนก็ปัง
คู่มือการซื้ออสังหาในหัวหินฉบับมือใหม่ จะซื้อลงทุนหรืออยู่เองอ่านไว้ไม่เสียหาย!