‘เซเว่นอีเลฟเว่น’ เป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อ ปี 66 ลุย 700สาขา รุกฟอร์แมทใหญ่!
เน้นเปิดร้านใหญ่ ขายสินค้า ผัก ผลไม้ แพ็คใหญ่ และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สร้างรายได้เติบโต โจทย์ขยาย "เซเว่นอีเลฟเว่น" ปี 66 เมื่อบริษัทกำงบลงทุน 11,000-12,000 ล้านบาท รุกคืบค้าปลีกเต็มสูบ ยกระดับเป็น "มากกว่าร้านสะดวกซื้อ" สู่ All Convenience
34 ปี เป็นเส้นทางการเติบโตของร้านสะดวกซื้อสัญชาติอเมริกัน "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งไม่เพียงเป็นผู้พลิกโฉมวงการค้าปลีกในประเทศไทย แต่ยังตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครักสะดวกสบายได้อยู่หมัด
จากจำนวนสาขาน้อย ปัจจุบันการเติบโตของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มีมากถึง 13,660 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นต่างจังวัดสัดส่วน 57% และกรุงเทพฯ 43%
ไทม์ไลม์การเติบโตที่น่าสนใจของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจากร้านแรกปี 2531 ล่วงเลยสู่ปี 2545 บริษัทมีร้านแตะ 2,000 สาขา ปี 2548 มี 3,000 สาขา ปี 2552 มี 5,000 สาขา ปี 2559 มี 9,000 สาขา และปี 2560 ทะยานสู่ 10,000 สาขา
จำนวนร้านที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึง “ขุมทรัพย์ค้าปลีก” ที่มีมหาศาล และแผนการดำเนินธุรกิจของ “ซีพี ออลล์” ยังวางหมากรบเปิดร้านใหม่เพิ่มราว 700 สาขาต่อปี ซึ่ง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทเปิดร้านใหม่แล้ว 526 สาขา คาดการณ์สิ้นปีไม่พลาดเป้า! ที่ 700 สาขา
จิราพรรณ ทองตัน ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สำนักลงทุนสัมพันธ์ และ ปัณฑารีย์ นันทนาคม ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) เล่าถึงแผนการขับเคลื่อนธุรกิจของ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุน 11,000-12,000 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 700 สาขา รวมถึงวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เสริมแกร่งชอปปิง Offline to Online หรือ O2O
ที่น่าสนใจคือ การเปิดร้านใหม่ในปี 2566 รูปแบบหรือฟอร์แมทของร้านจะมี “ขนาดใหญ่” ใช้พื้นที่เป็น “หลายไร่” มากขึ้น ไม่ใช่แค่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็น “ร้านสะดวกซื้อ” แบบเดิมๆอีกต่อไป เพราะหลายปีมานี้ “เซเว่นอีเลฟเว่น” มีเป้าหมายของแบรนด์ (Brand Purpose) ชัดเจนว่าเป็น “All Convineice” อะไรที่เป็นความสะดวกของผู้บริโภค “เซเว่นอีเลฟเว่น” พร้อมให้บริการ
อีกด้านหลายคนมองการมีพื้นที่ใหญ่ กว้างขวาง เพื่อรองรับการเป็น “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” หรือ EV Charging Station ในอนาคต ซึ่งประเด็นนี้ บริษัทมองการเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ทว่า จุดประสงค์ใหญ่เป็นสิ่งที่สืบเนื่องจากช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาด ที่ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าที่ร้านใกล้บ้าน มองโอกาสขายสินค้า “แพ็คใหญ่” มากขึ้น ไม่แค่ของใช้ภายในครัวเรือน แต่ยังรวมถึงผัก ผลไม้สดด้วย อีกทั้งร้านยังมีอาหารปรุงสดให้บริการ
“การเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปีหน้าจะเน้นขนาดใหญ่ขึ้นมีพื้นที่จอดรถ ให้บริการแก่ลูกค้า เพิ่มความสะดวกสบาย เพราะปัจจุบันลูกค้ามองเซเว่นฯ เป็นเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ที่มาใช้จ่ายซื้อสินค้าแพ็คใหญ่ มี 3 สดนำเสนอ ทั้งพิซซ่าอบสด อาหารปรุงสด และออลคาเฟ่ เครื่องดื่มชงสด”
นอกจากเปิดร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในประเทศไทย บริษัทยังได้สิทธิ์ขยายอีก 2 ตลาดคือ กัมพูชาและลาว โดย “กัมพูชา” คิกออฟไปแล้ว 30 สาขา และยังมองหาโอกาสเปิดร้านใหม่เพิ่ม ส่วนประเทศ “ลาว” เดิมจะเห็นสาขาแรกในปีนี้ แต่ด้วยความท้าทายด้าน “การเมือง” และ “อัตราแลกเปลี่ยน” ตลอดจนภาวะ “เงินเฟ้อ” ทำให้ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่ “สาขาแรก” ยืนยันครั้งใหม่จะเห็นในปี 2566
มาดูผลประกอบการของ “เซเว่นอีเลฟเว่น” กันบ้าง จาก 13,660 สาขา มีลูกค้าใช้บริการรวมประมาณ 11 ล้านต่อวัน แต่เฉลี่ยนรายสาขาอยู่ที่ 928 คนต่อวันต่อสาขา และยอดใช้จ่ายอยู่ระดับ 82 บาท ภาพรวมไตรมาส 3 ชะลอตัวไปบ้างจาก 84 บาทต่อบิล เพราะฤดูฝนเป็น “โลว์ซีซั่น” ของค้าปลีก รวมถึงร้านสะดวกซื้อนั่นเอง
ขณะที่สินค้าเรือธงขายดิบขายดี หมวดอาหารหนีไม่พ้น อาหารพร้อมรับประทาน(RTE)ทั้งถาดแดงถาดดำแบรนด์ “อีซี่ โก” นั่นเอง และเครื่องดื่มสำเร็จรูป(RTD)ส่วนกลุ่มไม่ใช่อาหาร(Non-Food) เช่น ยา ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นแชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เครื่องสำอาง สบู่ไซส์เล็ก ฯ ของใช้ประจำวันต่างๆนั่นเอง
ฟาก “เดลิเวอรี่” ยอดขายต่อบิลสูง เพราะมีการกำหนดคำสั่งซื้อขั้นต่ำต้อง 100 บาทขึ้นไป
“ยอดการซื้อต่อบิล 82 บาท ถือว่าเติบโต 10% เมื่อเทียบก่อนเกิดโควิด ปี 2562 ที่ยอดเฉลี่ยอยู่ระดับ 70 บาทต่อบิล อย่างไรก็ตาม การซื้อที่ลดลงส่วนหนึ่งเกิดจากเงินเฟ้อ ต้นทุนสูงกระทบผู้ผลิตและมีการขึ้นราคาสินค้า แต่ปัจจัยทั่วไป คาดว่าไม่กระทบการฟื้นตังของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น”
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของเซเว่น อีเลฟเว่น ไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 97,186 ล้านบาท โต 28.7% และมีกำไรสุทธิ 3,109 ล้านบาท เติบโต 81.7% ส่วน 9 เดือน มีรายได้รวม 281,997 ล้านบาท เติบโต 19.2% และกำไรสุทธิ 10,266 ล้านบาท เติบโต 37.3%
ส่วนรายได้รวมทั้งบริษัท(รวมแม็คโคร โลตัส) 9 เดือน ปี 2565 อยู่ที่ 627,195 ล้านบาท เติบโต 56.2% และมีกำไรสุทธิ 10,134 ล้านบาท เติบโต 61.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
“เรายังเชื่อมั่นในแผนธุรกิจ Positiong ของเซเว่น อีเลฟเว่น เดิมอยากเป็นจุดหมายของ Food Conveneice หิว กระหายเมื่อไหร่ก็แวะมา ปัจจุบันเราอยู่ในจุดที่สร้างความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้นทุกอย่าง มุ่งสู่ All Convenience เพื่อเป็น Top of Mind และการเปิดร้านใหญ่เป็น Stand Alone ยังเป็นปัจจัยหนุนยอดขาย และซัพพอร์ตแผนงานอนาคต ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
