หยุดขายปลานกแก้ว

หยุดขายปลานกแก้ว

สร้างแล้ว
18 กรกฎาคม ค.ศ. 2014
กำลังอยู่ระหว่างการรณรงค์
คุณโสพิศ ภูสนาคม และ
ยืนยันการรณรงค์ได้ประสบความสำเร็จ
การรณรงค์สำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้สนับสนุนจำนวน22,994คน

ทำไมแคมเปญรณรงค์นี้ถึงมีความสำคัญ

สร้างโดย Reef Guardian Thailand

การรณรงค์ให้ห้างร้านขนาดใหญ่ยุติการขายปลานกแก้วสำเร็จแล้วครับ  โดยหลังจากที่มีการรณรงค์เรื่องนี้ผ่าน  www.change.org/saveparrotfish ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์ ห้างร้านดังทั้ง 5 แห่ง เทสโก โลตัส , แมคโคร, ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัล, เดอะมอลล์ และ วิลล่า มาร์เก็ต   ได้ออกประกาศหยุดขายปลานกแก้วทุกรูปแบบแล้ว หลังจากทราบถึงความสำคัญของปลานกแก้วและเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภค   ซึ่งสำหรับผู้ทำงานด้านการอนุรักษ์ทะเลมานาน นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องรอมาตรการจากภาครัฐ ถือเป็นการแสดงเจตนาร่วมกันของสังคม  นอกจากนี้หนึ่งในผู้จัดส่งอาหารทะเลรายใหญ่ ธรรมชาติซีฟู้ด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้จัดส่งปลานกแก้วให้กับร้านค้าปลีกกว่า 123 แห่ง ก็ได้ประกาศยุติการรับซื้อและจัดส่งปลานกแก้วเช่นกัน


กลุ่ม ผู้พิทักษ์ปะการัง Reef Guardian Thailand ขอขอบคุณทุกเสียงสนับสนุนกว่า 23,000  รายชื่อ  และรวมไปถึงห้างร้านที่ให้ความร่วมมือที่ช่วยทำให้การรณรงค์อนุรักษ์ทะเลครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและประสบผลสำเร็จเป็นประวัติการณ์เพราะแม้จะยังไม่ใช่แก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ แต่เราเชื่อว่าการรณรงค์ดังกล่าวได้ทำให้คนทั่วไปได้ทราบถึงคุณค่าของปลานกแก้วอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงแนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอย่างถูกวิธี”

การรณรงค์เรื่องนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงแค่นึกสงสารปลานกแก้ว ซึ่งเป็นปลาที่มีสีสันสวยงาม แต่ต้องการให้สังคมมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของปลานกแก้วต่อระบบนิเวศปะการัง ซึ่งในฐานะมนุษย์ เราสามารถช่วยเหลือแนวปะการังได้มากมาย โดยเฉพาะการหยุดจับปลาตามแนวปะการัง หยุดการพัฒนาชายฝั่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการท่องเที่ยวแบบไม่รับผิดชอบ

การรณรงค์ครั้งนี้จึงถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการทำให้คนเมืองและห้างร้านต่างๆ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคอย่างไม่พิจารณา  เพราะในระบบนิเวศทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกัน รวมไปถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนในเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและรุนแรงไปถึงท้องทะเล  รวมไปถึงการชี้ให้เห็นช่องโหว่ของกฎหมายที่ยังไม่ให้การคุ้มครองปลาในแนวปะการังที่อาจถูกลักลอบจับมาอย่างผิดกฏหมาย

ทางกลุ่มจะเดินหน้าสร้างจิตสำนึกใหักับชาวประมงท้องถิ่น นักท่องเที่ยว รวมทั้งภาครัฐเพื่อผลักดันให้มีการอนุรักษ์ปลานกแก้วอย่างจริงจังในทุกระดับ ทั้งในเชิงกฎหมายและการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ รวมไปถึงการอนุรักษ์ปลาชนิดอื่นๆที่มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศต่อไป

ปลานกแก้วและปลาในแนวปะการังคือหลักประกันสำคัญของการอยู่รอดของปะการัง และอนาคตของปะการังก็คืออนาคตของชาวประมงและพวกเราทุกคน

โปรดติดตามความคืบหน้าและการรณรงค์เกี่ยวกับอาหารทะเลยั่งยืน เพื่อทะเลที่ยั่งยืนของเราต่อไปได้ที่เพจ Reef Guardian Thailand และ Sunshine Sketcher


ขอบคุณทุกคนด้วยใจจริงครับ

 

 

///

 หลังจากที่กลุ่ม ผู้พิทักษ์ปะการัง Reef Guardian Thailand ได้เริ่มแคมเปญรณรงค์ให้ เทสโก โลตัส, แมคโคร, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์ และ วิลล่า มาร์เก็ต หยุดขายปลานกแก้วผ่านแคมเปญ www.change.org/saveparrotfish ก็ปรากฏว่ามีคนร่วมลงชื่อเกือบ 20,000 คนภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ล่าสุด เทสโก โลตัส เซ็นทรัล และ แมคโคร ได้ออกประกาศหยุดขายเนื้อปลานกแก้วแล้ว

 “ทางกลุ่มจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้เหลือแต่ เดอะมอลล์ และ วิลล่า มาร์เก็ต เท่านั้นที่ยังไม่ยอมหยุดการขายปลานกแก้ว ในขณะที่ห้างอื่นๆ ได้ประกาศยุติกันหมดเแล้ว อยากขอความร่วมมือให้ทุกท่านช่วยกันลงชื่อกดดันห้างทั้งสอง ซึ่งหากยังเพิกเฉย เราคิดว่าอาจจะต้องไปยื่นรายชื่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากนั้นทางกลุ่มก็มีแผนที่จะรณรงค์กับแหล่งค้าอาหารทะเลขนาดใหญ่อื่นๆ ด้วย เพราะปลานกแก้ว เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อนิเวศน์วิทยาทางทะเลมาก”

 “การรณรงค์เรื่องนี้ไม่ใช่ทำไปแค่นึกสงสารปลานกแก้ว แต่ต้องการให้สังคมมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของปลานกแก้วต่อระบบนิเวศน์ของปะการัง ซึ่งทุกวันนี้ปะการังไทยมีปัญหารุมเร้ามากมาย และยังมีการคาดการณ์ว่าปะการังอาจจะหมดไปเพราะภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก แต่มนุษย์สามารถช่วยแนวปะการังได้ ด้วยการหยุดจับปลาตามแนวปะการัง หยุดการพัฒนาชายฝั่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการท่องเที่ยวแบบไม่รับผิดชอบ”

 ถึงแม้ปลานกแก้วจะเป็นแค่ปลากลุ่มเดียว แต่งานวิจัยยืนยันแล้วว่าพวกมันมีผลต่อสมดุลของระบบนิเวศแนวปะการังอย่างมาก ทั้งการช่วยควบคุมสาหร่ายไม่ให้ขึ้นคลุมปะการัง การเปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนปะการังได้ลงเกาะ และการหมุนเวียนแร่ธาตุในระบบเช่นการผลิตทรายขาวละเอียด ที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง  ในระบบนิเวศทุกอย่างมันเชื่อมโยงกัน รวมไปถึงพฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางและรุนแรง เราจึงรณรงค์ให้ห้างต่างๆ หยุดขายปลานกแก้ว

 “การตัดสินใจของผู้บริโภคในเมืองส่งผลกระทบโดยตรงถึงการอนุรักษ์ที่ทะเล ซึ่งเรื่องนี้มีงานวิจัยรองรับโดย คอลัมน์ Ocean View ของเว็บไซด์ National Geographic เพิ่งลงบทความตรงใจเรื่อง To Save Coral Reefs, Start With Parrotfish เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดยสรุปผลจากงานวิจัยในคาริบเบียนว่า สิ่งที่สำคัญลำดับแรกสุดที่จะช่วยเป็นหลักประกันของระบบนิเวศปะการังที่สมบูรณ์แข็งแรงคือ การอนุรักษ์ปลานกแก้ว เครือข่ายการติดตามสถานภาพปะการังโลก (GCRMN) ของ IUCN เพิ่งจัดทำรายงานฉบับล่าสุดเกี่ยวกับสถานภาพปะการังในคาริบเบียน พบว่าปะการังในคาริบเบียนลดจำนวนลงกว่า 50% ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เพราะการหายไปของปลานกแก้วและหอยเม่น ทั้งหมดเหล่านี้พวกเราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับแนวปะการังของประเทศไทย”

ปลานกแก้วในวันนี้แม้อาจจะยังไม่ใช่ปลาหายาก แต่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยฟื้นฟูปะการัง หากปล่อยให้ปลานกแก้วกลายเป็นปลาที่นิยมในการบริโภค เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นาน ปลานกแก้วจะลดจำนวนลงจนไม่อาจทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศปะการังได้อีกต่อไป ดังนั้น จึงเชิญชวนร่วมกันรณรงค์หยุดบริโภค หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดจับปลานกแก้ว เพราะปลานกแก้วคือหลักประกันสำคัญของการอยู่รอดของปะการัง และอนาคตของปะการังก็คืออนาคตของชาวประมงและพวกเราทุกคน

 

  ----------------------------------------------------------------------------------------------------

งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สำคัญหลายชิ้นบ่งชี้ตรงกันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการอนุรักษ์ปะการังคือการอนุรักษ์พันธุ์ปลาในแนวปะการัง โดยเฉพาะ ปลานกแก้ว แต่ปรากฏว่าห้างต่างๆ กลับวางขายปลานกแก้วให้คนซื้อไปรับประทานกันอย่างไม่น่าเชื่อ 

ปัจจุบัน แนวปะการังอันเป็นระบบนิเวศทางทะเลที่สำคัญที่สุดประเภทหนึ่งทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวและการทำหน้าที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ กำลังอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม อันมีสาเหตุสำคัญมาจากหลายปัจจัยทั้งการพัฒนาชายฝั่งที่ทำให้เกิดตะกอน การทำประมงเกินขนาด การท่องเที่ยวอย่างขาดความรับผิดชอบ และที่สำคัญคือปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวเนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นเกินระดับปกติ 

แนวปะการังของประเทศไทยในเวลานี้จึงอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ เปราะบางและต้องการการอนุรักษ์อย่างยิ่ง

งานวิจัยระยะยาวทางวิทยาศาสตร์สำคัญหลายชิ้นทั้งในออสเตรเลีย คาริบเบียน และในประเทศไทยเอง บ่งชี้ตรงกันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยอนุรักษ์ปะการังและฟื้นฟูแนว ปะการังที่เสื่อมโทรมคือการอนุรักษ์พันธุ์ปลาในแนวปะการัง ในจำนวนนี้ชนิดพันธุ์ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมสาหร่ายไม่ให้ขึ้นคลุมปะการังและคอยเปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนปะการังได้ลงเกาะคือปลากินพืชโดย เฉพาะกลุ่มปลานกแก้ว (Parrotfish)

แต่ปัจจุบันเริ่มมีการนำปลานกแก้วมาจำหน่ายเชิงพาณิชย์มากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้ว่ามีการพบปลานกแก้วมาวางขายเป็นประจำในห้างร้านขนาดใหญ่ที่มีสาขาเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นห้างแมคโคร ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเดอะมอลล์ เซ็นทรัล วิลล่ามาร์เก็ท และเทสโก้โลตัส บางสาขา 

ปลานกแก้วมีลักษณะทางนิเวศวิทยาที่จำเพาะเจาะจงต่อแหล่งอาศัยอย่างยิ่ง คือจะพบปลานกแก้วได้ในแนวปะการังเป็นหลัก นอกจากนี้ปลานกแก้วยังเป็นปลาที่ไม่สามารถทำการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นการจับปลานกแก้ว จึงเป็นการจับมาจากแนวปะการัง ซึ่งแนวปะการังแทบทั้งหมดในประเทศมีกฎหมายคุ้มครอง นั่นหมายความว่าปลานกแก้วเกือบจะทุกตัวที่นำมาขายได้มาจากการประมงที่ผิดกฎหมาย

เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เราเริ่มการรณรงค์เรียกร้องให้ห้าง Tesco Lotus ยุติการขายปลานกแก้วอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้เป็นตัวอย่างต่อห้างอื่นๆ ทางโลตัสได้ออกมาแถลงการแล้วว่ามีนโยบายที่จะไม่จำหน่ายปลานกแก้วเพื่อการบริโภคอีกต่อไป นับเป็นการได้ชัยชนะที่รวดเร็วมาก ต้องขอบคุณโลตัสไว้ ณ ที่นี้

ขั้นต่อไป เราต้องการเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของห้างแมคโคร ดำเนินรอยตามและประกาศหยุดขายปลานกแก้ว เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความต้องการของตลาดจนส่งผลกระทบต่อประชากรปลานกแก้วและระบบนิเวศปะการัง ปลานกแก้วไม่ใช่ปลาที่เป็นที่นิยมนำมาบริโภคอยู่แล้ว จึงไม่ควรนำมาจำหน่ายเพื่อเป็นการสร้างค่านิยมที่ไม่เหมาะสม และสร้างแรงจูงใจในการจับปลานกแก้วเป็นจำนวนมาก บอก

หลังจากนั้นเราจะเดินหน้าเรียกร้องให้ห้างอื่นๆ ได้แก่ เซ็นทรัล (Tops Supermarket) เดอะมอลล์ และวิลล่ามาร์เก็ท แสดงเจตนาอนุรักษ์ปลานกแก้วด้วย

ผู้เกี่ยวข้อง:

คุณ John Christie CEO TESCO Lotus Thailand

คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล บริษัท แมคโคร (Makro)

คุณพีระ อัศวาภิรมย์  บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

คุณจิรนันท์ ผู้พัฒน์ บริษัท Central Food Retail

คุณโสพิศ ภูสนาคม บริษัทวิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด

ปลานกแก้วในวันนี้แม้อาจจะยังไม่ใช่ปลาหายาก แต่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยฟื้นฟูปะการัง หากปล่อยให้ปลานกแก้วกลายเป็นปลาที่นิยมในการบริโภค เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นาน ปลานกแก้วจะลดจำนวนลงจนไม่อาจทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศปะการังได้อีกต่อไป

ในฐานะผู้บริโภค ขอเชิญชวนร่วมกันรณรงค์หยุดบริโภค หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดจับปลานกแก้ว เพราะปลานกแก้วคือหลักประกันสำคัญของการอยู่รอดของปะการัง และอนาคตของปะการังก็คืออนาคตของชาวประมงและพวกเราทุกคน

อ่านคำขอร้องของปลานกแก้วได้ที่ http://on.fb.me/1qI04Dp

ทำไมต้องอนุรักษ์ปลานกแก้ว http://on.fb.me/1jrcXu8

อิทธิพลของปลากินพืช http://on.fb.me/1ow9H3G

ปะการัง กำลังบอกลา? http://on.fb.me/1ofTE8E

ถ้าจะอนุรักษ์ปะการัง เริ่มต้นที่ปลานกแก้ว http://on.fb.me/1n4BXwb

 

ยืนยันการรณรงค์ได้ประสบความสำเร็จ

การรณรงค์สำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้สนับสนุนจำนวน22,994คน

แชร์แคมเปญรณรงค์นี้

แชร์แคมเปญรณรงค์นี้ด้วยตัวคุณเองหรือใช้รหัสคิวอาร์นี้ในสื่อของคุณดาวน์โหลดรหัสคิวอาร์

ผู้มีอำนาจตัดสินใจ

  • คุณโสพิศ ภูสนาคม
  • คุณ Praesirint Naiyananonda, คุณพีระ อัศวาภิรมย์
  • CEO Makro คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล
  • Makro
  • John ChristieCEO Tesco Lotus Thailand