วันที่ 9 มิถุนายน 2563 เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงมหาดไทยกำหนดหลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 รวม 2 ฉบับ 1.ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีควบรวมกิจการของธนาคารพาณิชย์ตามแผนพัฒนาระบบสถานบันการเงิน ระยะที่ 3
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
สาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์กรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตราร้อยละศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กัน ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
และร่างประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย ว่าด้วยอาคารชุด กรณีการควบรวมกิจการของธนาคารพาณิชย์ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3
สาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองห้องชุดกรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตราร้อยละศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ควบเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กัน ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ การเสนอร่างประกาศ รวม 2 ฉบับ ตามมาตรการเพื่อสนับสนุนการควบรวมธนาคารพาณิชย์ไทย จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีสรรพากรประมาณ 600 – 1,400 ล้านบาท แต่จะถูกชดเชยด้วยการขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนมาตรการภาษีเพื่อขจัดอุปสรรคของการควบรวมกิจการธนาคารพาณิชย์ไทยนั้น หากถือว่าการควบรวมกิจการเป็นการดำเนินกิจการต่อเนื่อง อาจถือได้ว่าไม่ได้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีแต่อย่างใด