เปิด ‘วิทยาลัยแสงอาทิตย์’ แห่งที่ 3 สวนกระแสค่าไฟแพง

ขอบคุณภาพจากกรีนพีช ประเทศไทย

กองทุนแสงอาทิตย์ เปิดตัววิทยาลัยแสงอาทิตย์ แห่งที่ 3 หวังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในสภาวะค่าไฟฟ้าแพง

วันนี้ (10 มีนาคม 2565) กองทุนแสงอาทิตย์ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร เปิดตัว “โซลาร์เจเนอเรชั่น วิทยาลัยแสงอาทิตย์ (SOLAR GENERATION)” สร้างการเรียนรู้ และการจ้างงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ของกองทุนแสงอาทิตย์ ที่เปิดรับเงินบริจาคผ่านกองทุนฯ เพื่อติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปให้วิทยาลัยสายอาชีพ 7 แห่ง แห่งละ 10 กิโลวัตต์ทั่วประเทศ โดยวิทยาลัยเทคนิคสกลนครถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นวิทยาลัยแสงอาทิตย์แห่งที่ 3 ของประเทศ ที่เริ่มโครงการโซลาร์เจเนอเรชั่น

บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค ในฐานะกรรมการกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า ในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา กองทุนแสงอาทิตย์ชะลอการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของวิทยาลัยเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 อย่างไรก็ตาม การบริจาคของประชาชนยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันกองทุนฯ สามารถระดมเงินทุนเพื่อเดินหน้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของวิทยาลัยได้อย่างน้อย 5 แห่งจากเป้าหมายทั้งหมด 7 แห่งนำร่องทั่วประเทศ โดยยอดบริจาคในปัจจุบันวันที่ 6 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 706,582.19 บาท จากเป้าหมายรวม  1,600,000 บาท เพื่อดำเนินการติดตั้ง วิทยาลัยแสงอาทิตย์” (Solar Generation) ระบบโซลาร์รูฟท็อป ที่มีกำลังผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์ โดยใช้เงินในการติดตั้งแห่งละ 400,000 บาท

“การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์ในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับวิทยาลัยได้ไม่ต่ำว่า 60,000 บาทต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่ค่าไฟฟ้าแพงดังเช่นปัจจุบัน และในระยะยาว คือมากกว่า 25 ปี ทางวิทยาลัยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ราว 1,500,000 บาท ตลอดอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์” บุญยืน กล่าว

ประดิษฐ์ ญาณประเสริฐ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร ระบุว่า วิทยาลัยเทคนิคสกลนครมีนักเรียนจำนวนกว่า 5,000 คน และมีความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงเรียนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 2562 – 2564 ส่งผลให้วิทยาลัยฯ ต้องแบกภาระค่าไฟฟ้าราวปีละ 4,000,000 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละราว 300,000 บาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าไฟฟ้าของกลุ่มวิชาอุตสาหกรรม ที่มีการทดลอง คิดค้น และประดิษฐ์งานจริงตลอดหลักสูตร

ประดิษฐ์ กล่าวขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมบริจาคเงิน จนทำให้วิทยาลัยฯ สามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปได้ ซึ่งจะลดภาระค่าไฟฟ้า และสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวไปพัฒนาระบบการเรียนการสอนในวิทยาลัยฯ และสิ่งสำคัญ คือ การเริ่มต้นติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปในครั้งนี้ เป็นการติดตั้งที่สถาบันการศึกษาแห่งแรกของจังหวัดสกลนคร ซึ่งสามารถเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังเรียนและจะจบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดใกล้เคียงมีโอกาสในการสร้างอาชีพจากการลงทุน หรือทำงานติดตั้งโซลาร์เซลล์อีกด้วย

ธีรพงศ์ แสงลาภเจริญกิจ ผู้ประสานงานการปฏิวัติเมืองยั่งยืน กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการจ้างงานโซลาร์เซลล์ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนที่จบการศึกษาสามารถประกอบอาชีพ หรือเป็นผู้ประกอบการด้านพลังงงานแสงอาทิตย์ ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และหันมาใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นถือเป็นการมีส่วนร่วมของทุกคนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และหยุดยั้งหายนะจากสภาพอากาศสุดขั้ว พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานของความยั่งยืนสำหรับอนาคตของพวกเราทุกคน

ทั้งนี้ กองทุนแสงอาทิตย์เปิดรับบริจาคเงินจากประชาชนทั่วประเทศ ผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้งพลาซ่า ชื่อบัญชี “กองทุนแสงอาทิตย์ โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” เลขที่บัญชี 429-017697-4 มีช่องทางการรับบริจาค และรับหลักฐานการบริจาคเงินทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thailandsolarfund.org โดยการบริจาคเงินสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้ เนื่องจากมูลนิธิฯ เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ลำดับที่ 576 ตามประกาศกระทรวงการคลัง

กองทุนแสงอาทิตย์เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเครือข่ายภาคประชาสังคมที่หลากหลาย ทั้งด้านผู้บริโภค การพัฒนาเด็ก สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อระดมทรัพยากรติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ทำงานรณรงค์ผลักดันให้เกิดการขยายตัวของระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาในระดับครัวเรือน หน่วยงาน สถาบันทั้งภาครัฐและเอกชน และภาคธุรกิจ บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปพลังงาน โดยการลงมือทำจริงในพื้นที่เป้าหมาย และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานหมุนเวียน

เครือข่ายกองทุนแสงอาทิตย์ประกอบด้วย (1) คณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ (2) คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) (3) สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (4) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) (5) เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค (6) สมาคมประชาสังคมชุมพร (7) มูลนิธิป่า – ทะเลเพื่อชีวิต (8) บริษัทศูนย์บ่มเพาะวิศวกร จำกัด (9) Solarder (10) โรงเรียนศรีแสงธรรม (11) มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) (12) เครือข่ายสลัม 4 ภาค (13) มูลนิธิภาคใต้สีเขียว (14) เครือข่ายลันตาโกกรีน Lanta Goes Green (15) มูลนิธิสุขภาพไทย และ (16) กรีนพีซ ประเทศไทย

#สภาองค์กรของผู้บริโภค #ผู้บริโภค