เก็บภาษีอื่นได้โดยไม่ต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
  AREA แถลง ฉบับที่ 777/2563: วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            มีข่าวว่านายกฯ จะให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 8% ดร.โสภณ ขอเสนอให้เก็บภาษีอื่นแทน จะได้เงินมากกว่าเสียอีก โดยผู้มีรายได้สูง เป็นผู้จ่ายน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าหากมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามมูลค่าตลาดจริง โดยประมาณการว่ามีบ้านทั้งหมดตามการจดทะเบียน ณ เดือนพฤศจิกายน 2563 จำนวน 27,182,943 หน่วย <1> สามารถแบ่งแยกราคาตามกลุ่มต่างๆ และในแต่ละกลุ่มจะจัดเก็บภาษีแตกต่างกันคือ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ให้จัดเก็บภาษี 0.05% ของมูลค่าตลาด และไล่เรียงจนถึงราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป จัดเก็บภาษีที่ 0.5% ตามราคาตลาด ก็จะได้ภาษีรวมเป็นเงิน 148,977 ล้านบาท

            จะเห็นได้ว่ารายได้ตามภาษีมูลค่าเพิ่มในปี 2562 เป็นเงิน 799,664 ล้านบาท <2> หากภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มจาก 7% เป็น 8% ก็อาจเก็บได้เป็นเงิน 913,902 ล้านบาท (สมมติง่ายๆ จากสัดส่วน 8% /7%) หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 114,238 ล้านบาท  แต่การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว ก็ได้เงินภาษีถึง 148,977 ล้านบาทแล้ว เพียงแต่การจัดเก็บภาษีนี้เน้นการจัดเก็บจากบ้านที่มีราคาสูงในสัดส่วนที่สูงกว่าบ้านที่มีราคาต่ำกว่า และสมมติให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านทุกหลังต้องเสียภาษีในฐานะพลเมืองของชาติโดยไม่มีการยกเว้นใดๆ

            ณ มูลค่าบ้านที่ 71,385,697 ล้านบาทนี้ หากมีการซื้อขายจำนองกันที่ 10% ของทั้งหมด ก็จะเป็นเงิน 7,138,570 ล้านบาท หากให้มีการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมโอนเพียง 1% เท่ากันหมด ก็จะได้เงินภาษีอีก 71,386 ล้านบาท  และหากสมมติมีการโอนมรดกกันประมาณ 1% ของมูลค่าข้างต้นหรือ 713,857 ล้านบาท และเก็บภาษีที่ 10% ของมรดกที่เป็นที่ดินและอาคาร ก็จะได้เงินอีกถึง 71,386 ล้านบาทเช่นกัน

            รายได้รวมอีก 142,772 ล้านบาทนี้ เมื่อรวมกับรายได้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอีก 148,977 ล้านบาท รวมเป็นเงินถึง 291,749 ล้านบาท ก็จะสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาท้องถิ่นโดยไม่ต้องพึ่งส่วนกลาง และไม่ถูกส่วนกลางครอบงำ ท้องถิ่นก็จะเกิดมีอิสรภาพทางการเงิน มีอิสรภาพทางความคิดในการบริหารท้องถิ่นต่อไป ประชาธิปไตยที่กินได้ในขั้นรากฐานก็จะเกิดขึ้นจริง

            ประเด็นก็คือว่ารัฐบาลจะเก็บภาษีจากคนมีทรัพย์มากมาเจือจานคนจนของประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำหรือไม่

 

<1> กรมการปกครอง https://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statMONTH/INTERNET/#/statpop
<2> รายงานการวิเคราะห์ของสำนักงบประมาณของรัฐสภา ฉบับที่ 3/2563. https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parbudget/ewt_dl_link.php?nid=797

อ่าน 3,156 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved