บทบาทของ ศอ,บต. กับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล

หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 72

หมายเลขประจำตัว นอ. 72.5470

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

1) เพื่อศึกษาบทบาทของ ศอ,บต. กับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามบทบาทของ ศอ.บต.

วิธีและขอบเขตการศึกษา

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยผู้วิจัยจะได้ศึกษาจากข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ จากเอกสาร หลักฐาน แนวคิด ทฤษฎี ผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ของ ศอ.บต. โดย ศึกษาบทบาทของ ศอ,บต. กับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการป้องกัน การแก้ไข การฟื้นฟูเยียวยา เป็นต้น ขอบเขตด้านประชากร ประชากรที่ใช้ในการสัมภาษณ์คือ กลุ่มผู้รู้หมายถึงกลุ่มที่อยู่ในการดำเนินการของ ศอ.บต. ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน ศอ.บต. ในพื้นที่ภาคใต้ และกลุ่มผู้เกี่ยวข้องอื่น เช่น นักการเมืองท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ ขอบเขตด้านระยะเวลา ศึกษาระหว่างเดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2555

ผลการวิจัย

1. บทบาทและอำนาจหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งสองกลุ่มมีความเห็นที่แตกต่างกัน กล่าวคือ กลุ่มผู้รู้เห็นว่าอำนาจหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในปัจจุบันไม่มีอำนาจเด็ดขาดเต็มที่โดยเฉพาะอำนาจในการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการ โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ทำหน้าที่เฉพาะการอำนวยการและประสานงานกับหน่วยงานต้นสังกัดให้ดำเนินการโยกย้ายเท่านั้น จึงมีอำนาจหน้าที่ที่จำกัดในการปฏิบัติงาน

2. บทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ในการแก้ไขปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรม

จากความคิดเห็นของผู้ถูกสัมภาษณ์ทั้งกลุ่มผู้รู้และกลุ่มผู้มีบทบาทเกี่ยวข้องกับบทบาทศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ในการแก้ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรม ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สามารถแก้ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างได้ผลดีมาโดยตลอด

จะเห็นได้ว่าปัจจุบันปัญหาเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมไม่ได้เป็นปัญหาหลักและมีความรุนแรงเหมือนเช่นในอดีต ปัญหาเกิดความไม่เข้าใจในหลักศาสนาอิสลามโดยผู้ที่

จะเข้ามาปฏิบัติงานไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจหลักศาสนาอิสลามเป็นอย่างดี มิฉะนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างประชาชนกับข้าราชการในพื้นที่ได้ โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เปิดโอกาสให้ผู้นำศาสนาอิสลามเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ร่วมกันทำให้ลดความหวาดระแวงและไม่เข้าใจกัน ดังนั้น ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมก็จะลดความรุนแรงลงตามลำดับ

3. บทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการพัฒนาประสิทธิภาพของข้าราชการในพื้นที่

จากการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของกลุ่มผู้รู้และกลุ่มผู้มีบทบาทเกี่ยวข้องมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน สรูปได้ว่าบทบาทในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพข้าราชการในพื้นที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะบทบาทในการปฐมนิเทศข้าราชการที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ให้มีความเข้าใจในสภาพสังคม วัฒนธรรมของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพลดปัญหาความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกันระหว่างประชาชนกับข้าราชการลงได้

4. แนวทางการทำงานในอนาคตของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

จากความคิดเห็นของผู้ถูกสัมภาษณ์ของกลุ่มผู้รู้และกลุ่มผู้มีบทบาทเกี่ยวข้องกับแนวทางการทำงานในอนาคตของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ปรากฏว่าทั้งสองกลุ่มมีความเห็นที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าต้องการให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ควรเป็นหน่วยประสานงานและเร่งรัดสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ให้เกิดเอกภาพมีประสิทธิภาพ โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการเกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย การวางแผน การติดตามควบคุม ดูแลและประเมินผลการทำงานของข้าราชการในพื้นที่และสร้างบรรยากาศที่

เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแทนการให้น้ำหนักในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง เนื่องจากสถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว

ข้อเสนอแนะ

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ควรยังคงดำรงอยู่ในฐานะหน่วยงานสำคัญของรัฐในการทำหน้าที่แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป และควรพิจารณาปรับปรุงบทบาทอำนาจหน้าที่ให้องค์กรนี้สามารถบริหารจัดการนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น
ควรพิจารณาจัดตั้งองค์กรอิสระที่ประกอบด้วยตัวแทนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทั้งนี้เพราะเหตุว่าคนในพื้นที่ย่อมมีความรู้ความเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น
รัฐบาลควรฟังเสียงประชาชนในท้องถิ่นบริเวณจังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อทราบถึงปัญหาที่แท้จริงเกี่ยวกับด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดและบริหารนโยบายให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อความมั่นคงของชาติในลำดับต่อไป

รัฐบาลควรพิจารณากำหนดให้ภาษามะลายูซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสำคัญที่สามารถเปิดสอนในสถานศึกษาต่าง ๆ ได้อย่างเสรีเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในสังคมซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ
รัฐบาลควรส่งเสริมให้ประชาชนยอมรับความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในท้องถิ่นเพื่อที่จะทำให้สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขบนพื้นฐานของการเคารพในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และสิทธิส่วนบุคคลของกันและกัน

จบการนำเสนอ