บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
3 นาที
4 มกราคม 2564
รวมเทคนิค! คิดบวก! เพิ่มแรงใจเริ่มต้นปี 2564
 

ต้นปี 2564 เริ่มต้นกันด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ที่เป็นการระบาดระลอกใหม่ ตอนนี้กระจายเกือบทั่วประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ท่ามกลางความกังวลของทุกคนว่าจะเจอมาตรการล็อคดาวน์หรือไม่ จะเจอพิษเศรษฐกิจแบบไหนมาเล่นงานกันอีก ปัญหาของคนทั่วประเทศตอนนี้คือ “ความคิดที่ติดลบ” ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะความคิดติดลบจะทำให้เราเกิดความเครียดและนำไปสู่ปัญหาที่มากขึ้นได้ ต้นปี 2564 ท่ามกลางปัญหามากมายแบบนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวมเทคนิค “คิดบวก” ให้เราได้นำไปฝึกใช้เพื่อเพิ่มแรงใจให้กับตัวเอง และก้าวข้ามปัญหาที่ต้องเผชิญอยู่นี้ไปด้วยกัน
 
1.อย่ามองทุกอย่างเป็นปัญหา
 

คนส่วนใหญ่เลือกจมปลักอยู่กับปัญหาและคิดว่าปัญหาที่เราเจอมันช่างใหญ่หลวงมากมาย ทำไมชีวิตนี้ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมชีวิตของเราต้องเป็นแบบนี้ ทำไมชีวิตเราไม่ดีเหมือนคนอื่นเขา การมองแบบนี้เรียกว่า “มองแต่ปัญหา” เหมือนชีวิตเดินอยู่ในความมืด ทั้งที่จริงแล้วคิดสิ่งที่เราเลือกเดินเอง ในทางกลับกัน ถ้ามองว่าปัญหาที่เราเจอคือ “ประสบการณ์” ที่เราจะได้เรียนรู้ เมื่อเราผ่าน “ปัญหา” ในแต่ละครั้งเท่ากับเรามี “ประสบการณ์” มากขึ้น เหมือนคำกล่าวเชิงปรัชญาที่พูดว่า “คนไม่ล้ม คือคนที่ไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลย”  ทุกคนบนโลกนี้ล้วนแต่เคยเจอปัญหา อยู่ที่ “ความคิด” ว่าเราจะจมอยู่กับปัญหา หรือหาวิธีสู้ เพื่อให้ปัญหาเป็นแค่ประสบการณ์หนึ่งในชีวิต
 
2.คิดบวกแบบ “น้ำครึ่งแก้ว”
 

เป็นวิธีที่สอนให้เรารู้ว่าชีวิตไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด เหมือนน้ำในแก้วที่แม้จะไม่เต็มแต่ก็ยังมีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว วิธีนี้เขาต้องการให้เราลืมความเสียใจกับสิ่งที่หายไป กับสิ่งที่มันเกิดไปแล้ว มันช่วยอะไรไม่ได้ และให้มองสิ่งที่ยังเหลืออยู่ คล้ายๆกับคำว่า “ในวิกฤติยังมีโอกาส” หรือ “โอกาสเป็นของคนที่ไม่ทิ้งโอกาส” ต้นปีแบบนี้ที่เราต้องเจอระลอกใหม่ของ COVID 19 อาจเป็นเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ให้เราได้ทบทวนว่าอะไรที่ทำแล้วดีบ้าง

ใช้เวลาที่มีมากขึ้นนี้ปรับปรุงในสิ่งที่ยังไม่ดีให้ดีกว่าเดิม หรือจะมองว่านี่คือโอกาสที่เราจะได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ  จากที่เคยทำธุรกิจแบบเดิมๆ เราอาจมีแนวคิดในการทำธุรกิจแบบใหม่มากขึ้น เหมือนปรัชญาหนึ่งของ สตีฟ จ๊อบส์ ที่เคยกล่าวไว้ว่า “จงกระหายและทำตัวให้โง่ตลอดเวลา”  นั่นหมายถึงให้เราพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ศึกษาหาความรู้ รับฟังผู้อื่นมากขึ้น บางครั้งการที่เราได้หยุดคิด อาจทำให้มุมมองในการลงทุนหรือการทำธุรกิจของเราเปิดกว้างมากขึ้นได้
 
3.ปลดล็อคให้ชีวิตตัวเอง
 

ทำไมบางคนมองว่าชีวิตตัวเองไม่ประสบความสำเร็จ ทำไมบางคนถึงก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้เร็วกว่า สิ่งสำคัญคือเราต้อง “ปลดล็อค” ตัวเองให้ได้การออกแบบความสุขเป็นความจำเป็นขั้นต้นของการสร้างนิสัยการคิดบวก เพราะเมื่อเราออกแบบความต้องการที่เราอยากมีความสุขได้ ขั้นต่อไป คือความพยายามที่จะไปให้ถึง ณ.จุดนั้น

โดยที่ตัดการเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะเราจะมีความสุขแบบเรา ๆ การทำเช่นนี้ ความสุขก็จะค่อยเริ่ม ๆ เกิดขึ้น และเมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะกลายเป็นนิสัย สุดท้ายของการฝึกการคิดบวกคือให้รางวัลกับชีวิต ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ การให้รางวัลกับชีวิตก็คือการพูดสิ่ง ดี ๆ ให้กับตนเอง ว่าเราก็มีดีเหมือนกัน เก่งเหมือนกัน ทำได้เช่นกัน หรือขอบคุณตัวเอง เป็นต้น
 
4.ฝึกขอบคุณสิ่งดีๆ ที่ผ่านเข้ามา
 

วิธีการง่ายๆในการสร้างกำลังใจและคิดบวกเพื่อเดินหน้าต่อคือการลองฝึกกล่าวคำขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันแม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สามารถช่วยเพิ่มความสุขในวันที่หม่นหมองได้ดี เช่น วันนี้ตื่นมาท้องฟ้าแจ่มใส มีแดดอ่อนๆ เราก็ขอบคุณพระอาทิตย์ที่ส่องแสงลงมา ทำให้เราไม่ต้องเจอกับอากาศหนาวๆ เพียงแค่นี้ก็เพิ่มความสุขเล็กๆ ให้เราได้บ้าง ยิ่งถ้าเป็นคนที่เข้ามาทำอะไรให้เราด้วยแล้ว

การกล่าวขอบคุณยิ่งเป็นการส่งต่อความสุขที่ดีมากๆ ไม่มีใครบนโลกใบนี้มีหน้าที่ทำดีกับคนอื่น การที่เราพบใครสักคนทำอะไรดีๆ ให้กับเรานั้น ถือว่าเราโชคดีมาก การเอ่ยคำ ”ขอบคุณ” เป็นการตอบแทนที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร แต่ผลของมันนั้นช่วยเพิ่มความสุข และพลังบวกให้กับตัวเรา และคนรอบข้างได้
 
5.ตามข่าวอย่างมีสติ ไม่ติดตามข่าวมากจนเกินไป
 

การติดตามข่าวเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เรารู้ทันความเป็นไปในสังคม แต่จากสถานการณ์ตอนนี้เราเจอข่าวไม่ค่อยดีแบบรายวัน เช่นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ COVID 19 , การประกาศพื้นที่ควบคุม และมาตรการของภาครัฐ , การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ ในพื้นที่ต่างๆ  บางคนเสพย์ติดข่าวเหล่านี้และทำให้จิตใจหม่นหมองจนเป็นคนหวาดระแวง สิ่งสำคัญคือเราควรแค่รับรู้ข่าวสารเบื้องต้น และหาทางป้องกันตัวเอง ไม่ตื่นตระหนกกับสิ่งที่รู้มา 

หรือถ้าเป็นไปได้ลองอยู่ห่างจาก โทรศัพท์มือถือสักระยะหยุดป้อนข้อมูลด้านลบเข้าสมองสักพัก ทำการล้างพิษโซเชียล (Social Detoxing) สักหน่อย เราจะได้เห็นความเป็นจริง ได้อยู่กับปัจจุบัน มีเวลาตั้งสติไตร่ตรอง ก่อนที่จะเชื่อทุกอย่างที่เห็น หรือได้ยินมา เพราะบางทีสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนเรื่องที่ถูกใส่สีตีไข่
 
6.ฝึกการเจริญสติ เพื่อสมาธิ และปัญญา
 

เรื่องของการฝึกสมาธิแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในเรื่องเทคโนโลยีอย่าง Google นั้น ได้มีการเปิดหลักสูตรฝึกการเจริญสติให้กับพนักงานของบริษัทตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้ชื่อ โปรแกรม Search Inside Yourself เพราะเชื่อว่า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มทักษะความเป็นผู้นำ และที่สำคัญที่สุดก็คือ การเพิ่ม “ความสุข”

ซึ่งการฝึกแบบ Google ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรเลย แค่เน้นคุณภาพของการฝึก และความต่อเนื่องเท่านั้นเอง โดยให้เราโฟกัสที่ลมหายใจเข้าออก ถ้ามีสิ่งรบกวนเข้ามา ก็ให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งรบกวนนั้น แล้วพยายามดึงสติของเราให้กลับมาอยู่ที่ลมหายใจให้ได้ เมื่อจิตใจสงบ ความคิดก็ไม่ฟุ้งซ่าน พลังลบรอบด้านก็ทำอะไรเราไม่ได้
 
7.จดบันทึกความคิดตัวเอง
 

การเขียนเป็นการระบายอารมณ์ที่ดี เครียดอะไร หงุดหงิดอะไร ในหัวคิดอะไรอยู่ก็เขียนมันออกมาให้หมด เตรียมสมุดกับปากกาให้พร้อม แล้วตั้งหน้าตั้งตาจดบันทึกลงไป พยายามทำทุกวัน แล้วลองกลับมาอ่านดูว่าในแต่ละวันเราคิดอะไรบ้าง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ย้อนกลับไปทบทวนความคิด ว่าในตอนนั้นเรารู้สึกอย่างไร แล้ววันนี้เรายังคิดแบบนั้นอยู่หรือไม่ เราจะเข้าใจชีวิตของเรามากขึ้น รู้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้น ทำเพราะอะไร แล้วผลที่เกิดขึ้น เป็นเช่นไร หรือบางทีก็ลองจัดระบบความคิดดูบ้าง เราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ที่สามารถเอาไปใช้กับงานในอนาคตก็ได้
 
8.ยิ้มไว้ไม่ทุกข์ สนุกดี
 

วิธีนี้คือให้เรา “ฝึกยิ้ม” แม้บางทีต้องฝืนก็ตามเพราะการยิ้มช่วยละลายความเครียดในหัวเราได้ แม้แต่คนอื่นที่เขาเครียดๆ บางทีเห็นรอยยิ้มของเราเขาก็มีความสุขเพิ่มขึ้นได้ต่ช่วงวิกฤติCOVID 19 นี้ หลายคนอาจมีคำถามเกิดขึ้นในใจ กักตัวอยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปเจอใคร จะยิ้มให้ใครดู ง่ายๆ เลย ไปยืนหน้ากระจก แล้วฉีกยิ้มให้คนตรงหน้า แค่นี้ก็เพิ่มความสุขให้กับตัวเองได้ หรือสำหรับใครที่ต้อง Work From Home ถ้ามีโอกาสประชุมออนไลน์อย่าลืมยิ้มให้เพื่อนร่วมงานผ่านการประชุมออนไลน์บรรยากาศในการทำงานก็จะดีขึ้นได้
 
9.กินอาหารมีประโยชน์เพิ่มพลังคิดบวก
 

มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่า อาหารนั้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้บริโภค ถ้าเราปล่อยอารมณ์ให้เศร้า จนเครียด ก็คงไม่มีผลดีอะไรกับตัวเอง ยิ่งถ้าปล่อยให้ท้องหิวด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้น การได้กินอาหารดีๆ สามารถทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้ สำหรับช่วงไวรัสระบาดแบบนี้ เมื่อต้องอยู่แต่ในบ้านนานๆ เราอาจรู้สึกอึดอัด และเบื่อหน่าย ลองเปิดมือถือ สั่งอาหารร้านโปรดให้มาส่งที่บ้าน

หรือหากต้องการผลที่ดีกว่านั้น ถ้าเมนูที่สั่งมีส่วนผสมของอาหารอย่าง ปลาทะเลที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ผักใบเขียวที่มาพร้อมกับกรดโฟลิก เบอร์รี่ต่างๆ ที่มีทั้งวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เพียบ ยิ่งกินก็ยิ่งได้ประโยชน์ ซึ่งพลังของการกินไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เรามีความคิดดีๆมากขึ้นได้
 
10.ออกกำลังกายช่วยปรับอารมณ์ความคิด
 

การออกกำลังกายคือการทำให้ร่างกายได้มีการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ ออกมา ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการปรับอารมณ์ความคิดให้ดีขึ้นได้โดยเฉพาะ “เอ็นโดรฟิน” ที่หลั่งมาจากต่อมใต้สมอง ถ้าเรามีเอ็นโดรฟินมากพอเราจะรู้สึกดีและมีอารมณ์คิดบวกมากขึ้น  อีกทั้งการออกกำลังกายยังช่วยในเรื่องสุขภาพ การเผาผลาญไขมัน กำจัดของเสียในร่างกาย ช่วยให้อวัยวะทำงานดีขึ้น หัวใจสูบฉีดเลือดดีขึ้น ออกซิเจนเข้าสู่สมองมากขึ้น ปอดและกล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น  สุขภาพเราก็ดีขึ้น อารมณ์เราก็จะดีขึ้นด้วย
 
ต้นปีแบบนี้ที่จริงควรเป็นเวลาแห่งความสุข เวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ปีนี้คงจะเป็นการเริ่มต้นปีที่ไม่สดใสมากนัก แต่ปัญหาก็คือปัญหา เมื่อเกิดแล้วก็เป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดกระบวนความคิดตัวเองให้มีพลังบวก อย่าให้ความคิดติดลบมาทำร้ายจิตใจเราได้ หากเราคิดบวก มีพลังบวก ชีวิตเราก็จะมีพลังก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ส่อง! ร้านอาหาร เหลือแค่ไหน? GP Food Delivery
3,081
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! คัลแลน พี่จอง
1,768
แท้จริง! คน Introvert คุยไม่เก่ง แต่สำเร็จเร็ว ต..
791
เศรษฐกิจโลกถดถอย เศรษฐกิจไทยซึมต่อ 17 บริษัทอ่วม..
691
2024 ปีอาถรรพ์ คนดัง แห่เลิกทำช่อง YouTube
633
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! เอ จักรพรรดิ
562
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด