ค้นหาคำตอบ ‘ผู้หญิงทำไมชอบดูดวง’

โดย...พริบพันดาว

ธุรกิจหมอดูหรือบริการดูดวงด้วยวิธีการต่างๆ ทางโหราศาสตร์ ที่พยากรณ์หรือทำนายทายทักโชคชะตาลัคนาราศี เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เคยสำรวจและทำวิจัยเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนก็ตกอยู่ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท แต่ปัจจุบันคาดว่าน่าจะตกอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท หากรวมเอาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูดวงเข้าไปด้วย อย่างธุรกิจการทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการดูหมอ โดยเฉพาะตำราที่ใช้ประกอบในการดูหมอ ซึ่งมีวางจำหน่ายอย่างหลากหลาย สำหรับผู้ที่สนใจจะหาซื้อไว้เพื่อศึกษาด้วยตนเอง หรือซื้อไปใช้สำหรับการประกอบอาชีพหมอดูในอนาคต

ไม่แค่นั้น ถ้าสังเกตในร้านหนังสือ ทุกแห่งจะจัดวางหนังสือเกี่ยวกับดูดวงหรือหมอดูไว้เป็นมุมเฉพาะเพื่อตอบสนองผู้อ่านที่สนใจหนังสือด้านนี้ โดยเฉพาะหนังสือและเทปพยากรณ์ดวงชะตาเฉพาะกิจที่เป็นคำทำนายดวงชะตาตลอดทั้งปีตามดวงวันเกิด 12 ราศี ซึ่งจะออกวางจำหน่ายในช่วงปลายปีถึงต้นปีของแต่ละปี มียอดขายที่สูงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ทุกวันนี้การดูดวงไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะไปดูกับหมอดูโดยตรงเท่านั้น ความนิยมในการดูดวง หรือการทำนายชะตาชีวิตในโลกยุคออนไลน์นั้น ทั้งในอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และบริการผ่านระบบออดิโอเท็กซ์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งบริการเหล่านี้มีทั้งบริการฟรีและต้องเสียค่าใช้จ่าย การดูหมอผ่านช่องทางต่างๆ นี้ ทำให้บรรดาลูกค้าประเภทผู้ชาย หรือคนรุ่นใหม่ที่อายในการเปิดเผยตัวเวลาจะดูดวงได้ใช้ช่องทางนี้

เพราะฉะนั้นการดูดวงรายวันในปัจจุบันนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตของผู้คน ความเชื่อเรื่องโชคลางฤกษ์ผานาทีมีมากยิ่งขึ้น แต่เชื่อหรือไม่? ลูกค้าดูดวงที่ทำให้ธุรกิจหมอดูเฟื่องฟูไม่ว่าเศรษฐกิจจะรุ่งร่วงทรงทรุดก็ตาม ส่วนมากหรืออาจจะร้อยละ 80 เป็นผู้หญิง

ทำไมผู้หญิงจึงชอบดูดวง? มาหาคำตอบกัน

 

จริงแท้แน่นอน ‘ผู้หญิงชอบดูดวง’

ประเทศไทยแบ่งสมาคมโหราศาสตร์ที่ได้รับการรับรองแล้วและก่อตั้งเป็นสมาคม 3 สมาคม ได้แก่ 1.สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 2.สมาคมโหรนานาชาติ และ 3.สมาคมสหพันธ์โหร ซึ่งแต่ละสมาคมต่างมีกฎกติกามารยาทแตกต่างกันแยกกันทำหน้าที่ แต่สุดท้ายบทบาทเดียวกันนั่นคือการประกอบอาชีพหมอดู

นอกจากนี้ ยังมีสมาคมโหราศาสตร์หรือหมอดูใหม่ๆ ตามสมัยนิยมก่อตั้งขึ้นมาอีกไม่น้อย ซึ่งสะท้อนภาพของการดูดวงในเมืองไทยนั้น เฟื่องฟูรุ่งเรืองเป็นอย่างสูง และอย่างที่บอกลูกค้าส่วนใหญ่ที่ดูดวงเป็น “ผู้หญิง”

ณิชาภัทร แต่ยินดี อุปนายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ยอมรับว่าจากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการหมอดูและธุรกิจดูดวงมาหลายสิบปีนั้น ลูกค้าที่เป็นหัวใจหลักหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เจริญเติบโตก็คือ สาวๆ หลากหลายวัยและทุกรุ่น

“ใช่ค่ะ ลูกค้าที่มาดูดวงส่วนมากเป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 80 ของคนที่มาใช้บริการ เพราะผู้หญิงจะมีความกลัวและมักจะมีความเชื่อเรื่องโชคลาง ซึ่งคิดว่าถ้ามาดูดวงกับหมอดูจะทำให้ไม่ประมาทในชีวิต สมาคมโหรฯ ที่ ดิ โอลด์สยาม มีแขกผู้หญิงมาดูดวงเดือนหนึ่งตั้งหลายครั้งก็มี ส่วนมากจะมาดูเรื่องหุ้นหรือจะทำนี่ทำโน่นดีไหม จะเปิดร้านหรือทำธุรกิจ

“ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มาดูดวงก็จะเป็นช่วงอายุวัยทำงานและวัยกลางคนซะมากกว่า วัยรุ่นก็มีแต่ไม่มากเท่าไหร่ก็จะมาดูเรื่องความรัก ส่วนลูกค้าผู้ชายก็มีแต่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวและไม่เชื่อมากเท่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงมีความกลัวมากกว่าเลยเชื่อมากกว่า”

สถานการณ์ลูกค้าที่มาใช้บริการดูดวง ณิชาภัทร บอกว่า ลูกค้าบางเดือนก็เยอะมาก บางเดือนก็ลดลงมา เป็นเรื่องของเศรษฐกิจด้วย แต่โดยค่าเฉลี่ยแล้วไม่ได้เพิ่มหรือตกไปมากนัก

“หมอดูเป็นที่พึ่งทางใจดูเรื่องงานเรื่องชีวิต ถ้าหมอดูดูได้แม่นและละเอียดลูกค้าผู้หญิงก็จะเป็นลูกค้าประจำ เรียกว่าเป็นที่ปรึกษาหรือหมอดูส่วนตัวกันเลย ทั้งดูแบบเจอตัวหรือปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ เศรษฐกิจดีหรือไม่ดีก็ไม่ได้ลดลงไปมาก จะทรงตัวอยู่อย่างนี้ตลอด ผู้หญิงที่ทำธุรกิจหรือเล่นหุ้นก็จะมาดูดวงกับหมอดูบ่อยหน่อย ส่วนพวกเช็กดวง หรือดูเพื่อสะเดาะเคราะห์จะมาน้อยหน่อย รวมถึงคนที่มีปัญหาหนักๆ

“ค่าดูหมอของสมาคมโหรฯ ครั้งละ 200 บาท เป็นราคามาตรฐาน ไม่มีเก็บพิเศษเพิ่ม ทุกศาสตร์มีครบหมด การหาฤกษ์แต่งงานจะราคามากหน่อย 600 บาท เพราะต้องดูดวง 2 คน เปลี่ยนชื่อหรือตั้งชื่อก็ประมาณ 500-600 บาท ของที่นี่ต่อเดือนก็มีลูกค้า 200-300 คน เฉลี่ยวันละเกือบ 100 คน หมอดูในสังกัดที่ ดิ โอลด์สยามสลับกันไปก็มี 10 กว่าคน ที่บางลำพูมีอยู่ 3 คน”

เมื่อถามว่า หมอดูรวยไหม ณิชาภัทรตอบทันทีว่า รายได้ของหมอดูก็พออยู่ได้พอกินพอใช้ ไม่ถึงกับร่ำรวย

“หมอดูดังๆ ก็อยู่ที่สื่อว่าจะโปรโมทหมอคนไหนให้ดังและทำเงินได้เยอะ ส่วนหมอดูที่ทำอาชีพนี้ตามปกติก็ไม่ร่ำรวยหรอก พอยังชีพได้”

ความเห็นน่าสนใจจากกระทู้ในพันทิป

ผู้หญิงมาดูดวงเพราะอ่อนไหวง่าย เกิดความกลัววิตกกังวลต่ออนาคต มีหมอดูมือใหม่คนหนึ่งได้มาตอบกระทู้ในพันทิปซึ่งถามประมาณว่า “ทำไมผู้หญิงชอบดูดวง?” ซึ่งประสบการณ์ตรงของเขานั้นน่าสนใจมาก สะท้อนภาพของยุคสมัยเรื่องผู้หญิงกับการดูดวงว่าเป็นของที่หนีกันไม่ขาดตัดกันไม่พ้น

“คห.ส่วนตัวจากการเป็นหมอดูมาระยะหนึ่ง...

‘ไม่ทุกคน’ หรอกครับ แค่สัก 70% ของผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจดูดวง และในจำนวนนั้นมีเพียงไม่เกิน 10% ที่สนใจดูดวงแบบจริงจัง คือเชื่อหมอดูแทบทุกอย่าง ส่วนใหญ่ที่ดูๆ กันก็เพราะ...

- ดูเอามัน เอาสนุก ฆ่าเวลา

- ดูเพราะเพิ่งมีปัญหากับแฟนมา พวกเธอพยายามจะวางแผนหาหนทางให้รักกลับมาดีเหมือนเดิม

- ดูเพราะอยากรู้จักหมอดู!!! (เชื่อหรือไม่ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผมก็อึ้งเหมือนกันเมื่อเจอกับตัวเองครั้งแรก)

- ดูเพราะอารมณ์เสีย หดหู่ ไม่มีที่พึ่ง อยากหาคำปลอบใจและที่ระบายออก

ส่วนพวก 10% ของ 70% ที่ชอบดูแบบจริงจัง มักมีสาเหตุมาจาก...

- มักคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายคุมเกมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็ตามในชีวิต พวกเธอคิดว่าตัวเองควรเป็นฝ่ายกำหนดว่าผลที่ออกมาต้องเป็นเช่นไร และการที่จะกำหนดผลลัพธ์ของปัญหาได้ พวกเธอจึงต้องการข้อมูลมหาศาลในการตัดสินใจและประมวลผล ซึ่งก็ไปหามาจากหมอดูนั่นเอง

- ประเภทกลัวไปซะทุกอย่าง ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย ออกแนวขาดความมั่นใจ กลัวการสูญเสีย จึงต้องถามหมอดูว่าควรทำอย่างไร

- หลายคนชอบพูดว่า ‘เชื่อแค่ที่ทายว่าดี แต่ไม่เชื่อที่ทายร้ายๆ’ คนส่วนใหญ่ที่พูดอย่างงี้ ก็อยู่ในกลุ่ม 10% นี้ด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าสรุปจากทั้งหมด เหตุผลหลักที่ผู้หญิงชอบดูดวง ก็คือ "พวกเธอมียีนความเป็นแม่" ครับ เพราะความเป็นแม่คือการดูแลเอาใจใส่ และพวกเธอก็เชื่อว่าการเอาใจใส่ที่ดีต้องเริ่มที่การวางแผนที่ดี ดังนั้นพวกเธอจึงต้องการข้อมูลมากเป็นพิเศษในการตัดสินใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นมักไม่ใช่  ‘ข้อมูลเชิงประจักษ์’ คือไม่ได้เห็นกันได้ด้วยตาเปล่า ไม่ได้รู้ได้ด้วยการถามกันตรงๆ และมักไม่ใช่ข้อมูลเชิง  Fact แต่มักต้องการข้อมูลประเภทความลับ หรืออยากรู้ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (แต่กำลังจะเกิด) ซึ่งจะไปหาข้อมูลเหล่านี้จากไหนได้ถ้าไม่ใช่ ‘หมอดู’ ...”

พื้นที่ทางสังคมผู้หญิงชอบดูดวง

ผศ.ดร.ชุติมา ประกาศวุฒิสาร อาจารย์ประจำภาควิชาวรรณคดีเปรียบเทียบ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับสตรีไทยในพื้นที่ต่างๆ ของสังคมไทยออกมามากมาย ได้ตอบคำถามถึงการที่ผู้หญิงชอบดูดวงกับหมอดูในเชิงวิชาการได้อย่างน่าสนใจว่า

“จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยเชื่อสถิติเท่าไหร่ ผู้ชายก็มีที่ชอบดูดวงแต่ไม่ค่อยเปิดเผยมากนัก หรือบรรดาเพศที่ 3 ก็มีเยอะ การที่บอกว่าผู้หญิงชอบดูดวงก็ดูเป็นคำที่กว้างไป ตัวแปรคงไม่ใช่แค่เรื่องเพศอย่างเดียว เรื่องเจเนอเรชั่นด้วย อายุคนหรืออะไรอย่างนี้ หรืออย่างหนึ่งชนชั้นก็มีส่วน”

การที่ผู้หญิงชอบดูดวง ผศ.ดร.ชุติมา ได้แบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1.สังคมสมัยใหม่เป็นสังคมของความเสี่ยงในหลากหลายรูปแบบ

“ผู้หญิงในยุคปัจจุบันทำไมถึงดูดวงกันเยอะ โดยส่วนตัวมองว่าในสังคมสมัยใหม่การดูหมอไม่น่าจะไปด้วยกัน การเชื่อในสิ่งที่อธิบายไม่ได้ซึ่งไม่เป็นเหตุและผล แต่ถ้าถามว่าคนสมัยนี้ดูหมอไหม ดูแน่นอน ซึ่งการดูดวงของคนสมัยนี้อาจจะแตกต่างจากคนสมัยก่อนก็ได้ คือมองว่าสังคมสมัยใหม่เป็นสังคมของความเสี่ยงในหลากหลายรูปแบบ อย่างเช่นภัยธรรมชาติ ความเสี่ยงที่ชัดเจนใกล้ตัวเข้ามาหน่อยก็คือทางด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงทางด้านความสัมพันธ์ เพราะสังคมสมัยใหม่รักง่ายหน่ายเร็ว

“เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าเพศไหนมีการผจญต่อความเสี่ยงมากกว่ากัน เมื่อเทียบระหว่างหญิงกับชาย ดิฉันมองว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่เสี่ยงมากกว่า เพราะโอกาสจะเอื้อให้ผู้ชาย ประโยชน์หรือความเชื่อมั่นผู้ชายจะได้รับจากสังคมมากกว่า ผู้หญิงส่วนมากจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงและไม่แน่นอน จนก่อให้เกิดความวิตกกังวล ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงชอบดูดวงมากกว่าผู้ชาย ออกไปหาหมอดูเพราะการดูดวงเหมือนกับการที่ได้กำหนดรู้ชะตาของตัวเอง สามารถที่จะรู้อนาคตของตัวเองกำหนดแบบคร่าวๆ เช่น มีคู่เมื่อไหร่ แต่งงานตอนไหน ได้งานทำไหม ดิฉันมองตรงนี้ส่วนหนึ่งว่าผู้หญิงเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย”

ประเด็นที่ 2 ลักษณะการเลี้ยงดูการอบรมทางด้านสังคม ผศ. ดร.ชุติมา เชื่อว่า ผู้หญิงถูกตีกรอบมากกว่าผู้ชายจึงต้องหาทางแหวกออกมา

“ผู้หญิงกับผู้ชายจะได้รับความคาดหวังที่ต่างกัน ผู้หญิงจะถูกตั้งให้มีชีวิตที่มีลักษณะของการอยู่ในระบบระเบียบแบบแผน ผู้ชายจะมีลักษณะที่เป็นปัจเจกและมีอิสระมากกว่า การยอมรับความเสี่ยงนั้น ผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน ผู้หญิงจะถูกกำหนดให้เป็นขั้นเป็นตอน ไม่เปิดโอกาสให้แหกกฎเกณฑ์เท่าไหร่นัก การดูดวงกับหมอดูก็เหมือนกับการไปดูบทหรือแผนที่ของชีวิตที่ถูกกำหนดไว้”

สุดท้าย ประเด็นที่ 3 การดูดวงคืองานอดิเรกในพื้นที่สาธารณะแต่มีความเป็นส่วนตัว

“คนสมัยนี้ แม้ผู้หญิงส่วนมากจะชอบดูหมอแต่ก็ไม่ได้เครียดกับคำทำนายมากนัก คล้ายๆ กับกิจกรรมยามว่างเหมือนกับการไปเดินห้างซื้อของ คล้ายการช็อปปิ้งเพื่อคลายเครียดและสนุกสนาน ดูดวงกับหมอดูก็เหมือนกับการแวะเข้าร้านทำผมเสริมสวยทำสวย แต่ไปหาหมอดูก็เพื่อเสริมดวง ซึ่งเป็นส่วนขยายของพื้นที่ภายในบ้าน เหมือนไปจ่ายตลาดออกไปผ่อนคลายด้วยแล้วก็ซื้อของเข้าบ้าน เหมือนส่วนต่อขยายออกมาสู่สังคมภายนอกของผู้หญิง เป็นกิจกรรมกึ่งสาธารณะ

“ดิฉันมองว่าการดูดวงกับหมอดูนั้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง พื้นที่การดูหมอแม้อยู่นอกบ้านแต่ก็เป็นการสร้างบรรยากาศส่วนตัว สามารถที่จะสารภาพหรือปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ออกมา เหมือนกับการไปหาเพื่อนคุย เรื่องที่คุยหรือเล่าให้หมอดูฟังบางเรื่องพ่อแม่หรือคนในบ้านก็ไม่รู้ การไปดูดวงก็เป็นที่ปลอดภัยและคุ้นเคย เหมือนกับการสร้างความอบอุ่นทางใจให้ด้วย ไปดูดวงคนอื่นๆ ใกล้ตัวในครอบครัวหรือสังคมก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งมองเรื่องการใช้พื้นที่ในสังคมเพื่อการนี้จำนวนผู้หญิงดูดวงมีมากอย่างแน่นอน”

จากมุมมองทั้งหมด จะพบคำตอบได้ไม่มากก็น้อยว่า ทำไมผู้หญิงเป็นลูกค้าหลักที่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหมอดูให้เติบโตในสังคมไทย