...
"เผิงลี่หยวน" เป็นผู้หญิง
...เป็นแม่ แต่บังเอิญเธอเป็นภรรยาประธานาธิบดีสีจิ้นผิง
เธอจึงมีปากมีเสียงมากกว่าผู้หญิงมากมาย
ในฐานะ"แม่"
เธอได้กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องคะแนนสอบเอ็นทรานซ์(ของจีน)และสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการศึกษาที่นั่น
ทั้งๆที่เป็นเสมือน"แม่สอนลูก"ว่า...
คะแนนสอบของลูก
ไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับการสอนให้ลูกรู้จักสำนึกในบุญคุณ
รู้จักเรียนรู้การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
ลูกจะมีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง
ผู้ปกครองจะมีวิธีอบรมปลูกฝังอย่างไร
การที่จะให้ทรัพย์สินแก่ลูกหลาน
ทำไมไม่คิดจะสร้างลูกให้กลายเป็นทรัพย์สินล้ำค่าเล่า
นั่นคือการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีของสังคม
ดังนั้น
การเก็บสะสมทรัพย์สินมหาศาลให้กับลูกหลานไม่สามารถเทียบเท่ากับการให้ข้อคิดดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตดังต่อไป
1. ลูกรัก
ลูกต้องเรียนรู้ที่จะทำอาหาร
นี่ไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลปรนนิบัติคนอื่น
เมื่อคราที่คนที่รักลูกไม่ได้อยู่ข้างกายลูก
ลูกก็จะสามารถดูแลตนเองได้(อยู่รอดได้ด้วยตนเอง)
2. ลูกรัก
ลูกจะต้องเรียนรู้ที่จะขับรถ
นี่ไม่ได้เกี่ยวกับฐานะตำแหน่งหน้าที่
เช่นนี้แล้ว
ลูกก็จะสามารถไปในทุกๆที่ลูกอยากไปทุกเวลา ไม่ต้องไปขอร้องใคร(มีอิสระเสรี)
3. ลูกรัก
ลูกจะต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐาน
นี่ไม่ได้เกี่ยวกับการรับรองฐานะการศึกษา
ในชีวิตคนเราจำเป็นต้องผ่านประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยสัก
3-4
ปีซึ่งเป็นชีวิตที่ไม่มีเงื่อนไขและเป็นชีวิตที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะให้มีสติปัญญา
ความนึกคิดและการใช้เหตุผล (เมื่อเข้าไปสู่สังคมก็เสมือนเข้าไปสู่ชีวิตจริง)
4. ลูกรัก
ลูกรู้หรือไม่
ฝากรอยเท้าไกลเท่าไหน จิตใจจะกว้างเท่านั้น เมื่อใจกว้างแล้ว ลูกจึงจะมีความสุข
หากเดินไปได้ไม่ไกล
ให้หนังสือช่วยพาลูกเดินไป(เปิดกว้างโลกทัศน์ของตนเองโดยอาศัยโลกแห่งความรู้)
5. ลูกรัก
หากโลกนี้เหลือเพียงน้ำสองถ้วย
ถ้วยหนึ่งเอาไว้ดื่ม ส่วนอีกถ้วยหนึ่งใช้ทำความสะอาดใบหน้าและชุดชั้นในของลูก(การเห็นคุณค่าของตัวเองไม่เกี่ยวกับความจนความรวย)
6. ลูกรัก
หากฟ้าถล่มทลายลงมา
ก็ไม่ต้องร้องไห้ และไม่ต้องบ่นว่าอะไร
เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้คนที่รักลูกยิ่งเจ็บปวดใจ
ส่วนคนที่เกลียดลูกจะยิ่งได้ใจ(ยอมรับชะตากรรมอย่างสงบ
คนที่เรารักจะมีความสุข)
7. ลูกรัก
ต่อให้ต้องกินข้าวคลุกซีอิ๊วขาว
ก็ต้องปูผ้าปูโต๊ะที่สะอาด และนั่งลงไปอย่างสง่างาม
ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายอย่างใส่ใจในคุณภาพ (มารยาทไม่ต้องแย่ไปเหมือนสถานการณ์)
8. ลูกรัก
เมื่อไปยังสถานที่ไกลๆ
จำไว้ว่านอกจากจะต้องนำกล้องถ่ายรูปไปแล้ว ก็ต้องนำปากกาและกระดาษไปด้วย
วิวทิวทัศน์นั้นเหมือนกัน
แต่อารมณ์ที่ดูวิวทิวทัศน์นั้นไม่สามารถกลับมาซ้ำเหมือนเดิมได้อีก(สวี่เสียเค่อ(xu xia ke )นักภูมิศาสตร์
นักเดินทางชาวจีนที่เป็นสวี่เสียเค่อในวันนี้,มิใช่เพราะเดินทางมากที่สุด
เขายิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงเพราะการบันทึกเรื่องราวและประสบการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่ได้จากการเดินทางที่ทิ้งไว้ให้กับชนรุ่นหลัง)
9. ลูกรัก
ลูกจะต้องมีพื้นที่เป็นของตนเอง
ต่อให้มีแค่ 5 ตารางเมตรก็ตาม
เพราะตอนที่ลูกทะเลาะกับคนรักและฉุนโกรธเดินออกมา
ก็ไม่ถึงกลับร่อนเร่ไปตามถนน พบเจอกับคนไม่ดี
สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ
เมื่อตอนที่ลูกใจร้อน ก็จะมีสถานที่ที่ทำให้ลูกใจเย็นลงได้
ให้หัวใจของลูกได้พักไว้ในมุมนั้น(อุปนิสัยแบบอิสระ)
10. ลูกรัก
เมื่อตอนยังเด็กจะต้องมีความรู้
เมื่อโตขึ้นจะต้องมีประสบการณ์ ลูกจึงจะมีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพ (อ่านประสบการณ์ของผู้อื่น
และหาประสบการณ์ให้กับตนเอง)
11. ลูกรัก
ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม
ก็จงเป็นคนดีมีเมตตา โปรดจำไว้ว่า การมีจิตใจดี
ก็จะทำให้ลูกเป็นผู้ที่ได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
(การคุ้มครองดูแลนี้ไม่ใช่ความร่ำรวยและอำนาจ ทำดีย่อมได้ดีตอบแทน)
12. ลูกรัก
รอยยิ้ม
ความสง่างาม ความมั่นใจ นั้นเป็นทรัพย์สินทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
หากมีสิ่งเหล่านี้
ลูกจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง(นี่ก็คือจิตวิญญาณของ
“ผู้ดี”)
เรียบเรียงจากการแปลโดย
แอม ( สุวิไล ) @ เจนบรรเจิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น